
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งพักฐาน แม้เมื่อคืนนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด แต่ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณชี้ชัดต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค. ผิดจากที่ตลาดเคยคาดไว้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวเพิ่มขึ้น และ Dollar Index แข็งค่า เป็น Sentiment ลบต่อบรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นภูมิภาค
ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติและกองทุนยังเป็นลบต่อเนื่องจากแรงขายปรับพอร์ตก่อนการเปิดเผยผลประกอบ
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันนี้
โดยให้กรอบแนวรับ 1,310 – 1,300 จุด และแนวต้าน 1,325 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,706.37 จุด เพิ่มขึ้น 161.78 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,890.89 จุด เพิ่มขึ้น 15.73 จุด หรือ +0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,827.49 จุด เพิ่มขึ้น 190.04 จุด หรือ +0.80%
– ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดผันผวน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดที่ระดับ 51,146.27 จุด ลดลง 161.38 จุด หรือ -0.31%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,545.92 จุด เพิ่มขึ้น 199.78 จุด หรือ +0.76% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 4,007.82 จุด ลดลง 8.51 จุด หรือ -0.21%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ต.ค) 1,315.64 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด (+0.10%) มูลค่าซื้อขาย 33,460.18 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (29 ต.ค) 833.99 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. (29 ต.ค) เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ต.ค) อยู่ที่ 8.03 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.37 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังเฟดหั่นดอกเบี้ยตามตลาดคาด
– รัฐบาลยืนยันเดินหน้า “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดสิทธิให้ ผู้ที่ตกหล่นจากรอบแรกก่อน เน้นใช้งบประมาณเดิมไม่ก่อหนี้เพิ่ม ควบคู่วินัยการคลัง เผยยอดวันแรกคึกคัก คนแห่ใช้สิทธิคนละครึ่งพลัสตั้งแต่เช้า หนุนยอดใช้จ่ายแตะหลายร้อยล้านในไม่กี่ชั่วโมง ผู้ใช้สิทธินับล้านราย ร้านค้าร่วมโครงการนับแสนราย
– นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยันมหาดไทยเผยมีหนังสือชี้แจงไม่ยกเลิกการจัดงานประเพณีลอยกระทง ย้ำมีแนวทางในการดำเนินงานเพื่อทำ ความเข้าใจกับส่วนราชการแล้ว กทม.ปรับ รูปแบบกิจกรรม สืบสานวัฒนธรรมประเพณี พร้อมเปิด 110 จุด ให้ประชาชนร่วมงาน “ลอยกระทงวิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”
– “ธปท.-สหรัฐ” เดินหน้า ร่วมมือความโปร่งใส “ไม่บิดเบือนค่าเงินบาท” เพื่อให้ได้เปรียบทางการค้า ด้านบาทแข็งค่า ตามแรงดอลลาร์อ่อน ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดเฉียด 3 แสนล้านดอลลาร์ “นักเศรษฐศาสตร์” ชี้การแข็งค่าของเงินบาทเป็นผลจากแรงภายนอก
– “พิพัฒน์”เคาะมาตรการใหม่”บัตรเหมาจ่ายรายวัน” รถไฟฟ้าสายสีแดง-สีม่วง จ่ายด้วยบัตร EMV เริ่ม 1 ธ.ค. 68-30 พ.ย. 69 ลดค่าเดินทางมากกว่าเดิม สั่งคมนาคม-คลังหาโมเดล ตั๋วร่วม ซื้อคืนสัมปทาน ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ขีดเส้น 90 วันชัดเจน ชงครม.เห็นชอบ หวังเชื่อมระบบตั๋วร่วมสู่ค่าโดยสารเดียวทั้งระบบ
– “พิพัฒน์” สั่งศึกษารายละเอียดโปรเจกต์ทางด่วน “กะทู้ป่าตอง” จ.ภูเก็ต เล็งโอนให้ ทล.ดูแลแทน กทพ.ลดไซซ์อุโมงค์เหลือ 10 เมตร ช่วยเซฟงบ-ปลอดภัย เล็งหา รือสภาพัฒน์ ก่อนเสนอ ครม.ภายใน พ.ย.68
– KTB (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 29 บาท ยังคงมุมมองเชิงบวกทั้งในเชิง Sentiment จากโครงการ “คนละครึ่งพลัส” และแนวโน้มสินเชื่อคาดเติบโตแข็งแกร่งกว่ากลุ่มจากการลงทุนภาครัฐเร่งตัวในปี 69 ระยะสั้นแม้ถ้อยแถลงของเฟดจะ Dovish น้อยกว่าคาด อาจทำให้แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ย กนง.เกิดช้าขึ้นเพื่อรักษา Policy Gap แต่เรามองว่ายังไม่เป็นปัจจัยลบต่อแนวโน้มการเติบโตของธนาคารในระยะกลาง
– BEM ( กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 10.85 บาท มุมมองเชิงบวกหลังฟิทช์ฯจัดอันดับเครดิตระยะยาวในประเทศที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงจาก credit spread ลดลง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลดลง ขณะเดียวกัน ปัจจัยกระตุ้นใกล้คือการอนุมัติโครงการทางด่วนสองชั้นมูลค่า 3-3.5 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/68 คาด BEM ได้สิทธิบริหารแลกกับการขยายสัมปทาน FES และ SES อีก 20 ปี เพิ่มมูลค่า 1.3-1.5 บาท/หุ้น และยังมีอัพไซด์จากสัญญา O&M รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในปี 69 เปิดใช้ในปี 72 เสริมการเติบโตยาว
– ADVANC (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมาย 320.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/68 ยังขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY จากรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายยังสูงขึ้น ผสานการควบคุมต้นทุนได้ดีต่อเนื่อง ระยะกลางยังได้ประโยชน์จากการประมูลคลื่นรอบใหม่ ADVANC ชนะคลื่น 2100 MHz. 3 ชุด ที่ราคา 4.95 พันล้านบาทช่วยประหยัดต้นทุนที่เคยเช่าจาก NT ได้กว่า 2.9 พันล้านบาททต่อปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 68)





