
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศปรับลดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ หลังอุปสงค์ชะลอตัวอย่างมาก พร้อมเตรียมเลิกจ้างพนักงานกว่า 1,700 คน และพักงานอีกกว่า 1,500 คนในหลายรัฐ
GM ระบุเมื่อวันพุธ (29 ต.ค.) ว่า บริษัทจะเลิกจ้างพนักงานประมาณ 1,200 คน ที่โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองดีทรอยต์ และอีก 550 คน ที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในรัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกับ แอลจี เอนเนอร์จี โซลูชัน (LG Energy Solution) ของเกาหลีใต้ โดยพนักงานกลุ่มหลังจะถูกเลิกจ้างโดยไม่มีกำหนดเรียกกลับ
นอกจากนี้ GM จะระงับการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ที่โรงงานร่วมทุน 2 แห่งในสหรัฐฯ ได้แก่ โรงงานในรัฐเทนเนสซีและรัฐโอไฮโอ เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานราว 1,550 คน ต้องพักงานชั่วคราว
สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในดีทรอยต์ บริษัทจะปรับลดกำลังการผลิตเหลือเพียง 1 กะต่อวัน จากเดิม 2 กะ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค. ส่งผลให้กำลังผลิตลดลงราว 50% โดยโรงงานดังกล่าวเป็นฐานการผลิตรถกระบะไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น Chevrolet Silverado, GMC Sierra รวมถึงรถ SUV รุ่น Escalade IQ และ Hummer
GM ชี้ว่า การปรับลดครั้งนี้เป็นผลมาจากการยอมรับว่ารถ EV ชะลอตัวในระยะสั้น และสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ยังไม่แน่นอน โดยบริษัทเคยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการด้านการปล่อยไอเสีย และได้ปรับลดแผนการผลิตรถ EV เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐฯ หลายรายเริ่มชะลอแผนการขยายตลาดรถ EV เนื่องจากคาดว่าความต้องการของผู้บริโภคจะลดลงอย่างมาก หลังสิทธิ์ลดหย่อนภาษีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สำหรับผู้ซื้อรถ EV หมดอายุลง ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่า ยอดขายรถ EV ที่เคยมีสัดส่วนเกิน 10% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในช่วงฤดูร้อน อาจลดลงครึ่งหนึ่งในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ต.ค. 68)





