
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 49.0 ในเดือนต.ค. จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI เดือนต.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 49.6 บ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ
ทั้งนี้ กิจกรรมด้านการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัวนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากร ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อโรงงานต่าง ๆ ของจีน และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต ซึ่งรวมถึงการบริการและการก่อสร้าง เพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.1 ในเดือนต.ค. จากระดับ 50 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยุ่ที่ระดับ 50
การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอลงสู่ระดับ 4.8% ในไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นการขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 1 ปี โดยแม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ประมาณ 5% ในปีนี้ แต่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของความต้องการสินค้าจีนในตลาดต่างประเทศ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
พรรคคอมมิวนิสต์จีนให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ หลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้มีการร่างแผนเศรษฐกิจและนโยบายระยะเวลา 5 ปี ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงการสร้างความแข็งแกร่งของระบบอุตสาหกรรมภายในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 68)
 
								




