
ซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เตือนว่า ตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศกำลังเผชิญกับภาวะที่ค่าเงินมีการเคลื่อนไหวเพียงด้านเดียวรวดเร็วเกินไป โดยคำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มแผ่วลง
คาตายามะ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวในระหว่างการแถลงข่าววันนี้ (31 ต.ค.) ว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ค่าเงินควรเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ เพื่อสะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ พร้อมกับกล่าวว่า รัฐบาลกำลังจับตาความผันผวนที่มากเกินไปและไร้ระเบียบเช่นนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงความเคลื่อนไหวที่ถูกขับเคลื่อนโดยนักเก็งกำไร โดยรัฐบาลมองว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณ 9 เดือนที่ระดับ 154 เยนต่อดอลลาร์เมื่อวานนี้ หลังจากที่ประชุม BOJ ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5%
การเทขายเงินเยนทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวภายหลังการประชุมว่า BOJ จำเป็นต้องประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนที่จะกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ซึ่งนักลงทุนในตลาดตีความว่า BOJ กำลังส่งสัญญาณถึงการใช้ความระมัดระวังในการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป
ทั้งนี้ คาตายามะกล่าวถึงผลการประชุมของ BOJ ว่า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ในปัจจุบันแล้ว การตัดสินใจของ BOJ ก็ถือว่ามีเหตุผลมาก อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
เงินเยนอยู่ภายใต้แรงกดดันนับตั้งแต่ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ในช่วงต้นเดือนต.ค. ซึ่งผลักดันให้เกิดมุมมองว่า BOJ จะเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ต.ค. 68)
 
								




