ดัชนี PMI ภาคการผลิตญี่ปุ่นเดือนต.ค. หดตัวแรงสุดในรอบ 19 เดือน เหตุดีมานด์ซบเซา

ผลสำรวจภาคเอกชนเปิดเผยในวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า ภาคการผลิตของญี่ปุ่นในเดือนต.ค. หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 19 เดือน โดยมีปัจจัยกดดันจากอุปสงค์ที่ซบเซาอย่างหนักในอุตสาหกรรมหลักอย่างยานยนต์และเซมิคอนดักเตอร์

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่น ซึ่งจัดทำโดย S&P Global ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.2 ในเดือนต.ค. จาก 48.5 ในเดือนก.ย. โดยตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าค่าประมาณการเบื้องต้นที่ 49.3 และถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นอยู่ต่ำกว่า 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แล้ว

ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า ยอดคำสั่งซื้อใหม่หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 20 เดือน อันเนื่องมาจากข้อจำกัดด้านงบประมาณของลูกค้าและอุปสงค์ที่อ่อนแอ ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 44 โดยเฉพาะจากตลาดเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ ทว่าเป็นการหดตัวในอัตราชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.

แม้อุปสงค์ลดลง แต่การหดตัวของผลผลิตภาคการผลิตนั้นรุนแรงน้อยกว่าในเดือนก.ย. เนื่องจากผู้ผลิตสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับปริมาณงานใหม่ที่ลดลงได้

ด้านอัตราเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตได้เร่งตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน วัตถุดิบ และการขนส่งที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นราคาผลผลิตสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เพื่อรักษาระดับอัตรากำไร

ผลสำรวจ PMI ยังสะท้อนให้เห็นว่า มุมมองของผู้ผลิตต่อผลผลิตในอนาคตกลับมาเป็นบวกมากขึ้นในเดือนต.ค. โดยมีปัจจัยหนุนจากความคาดหวังต่อการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้อย่างแพร่หลาย และการฟื้นตัวของภาคยานยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ ท่ามกลางแนวโน้มที่ภาวะการค้าโลกจะกลับสู่ภาวะปกติ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)