
นินเทนโด (Nintendo) ซึ่งเป็นบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายเครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ “Switch 2” สู่ระดับ 19 ล้านเครื่อง สำหรับปีงบการเงินที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. ปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 15 ล้านเครื่อง หลังจากที่ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกแข็งแกร่งเกินคาด
พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปีขึ้น 16% สู่ระดับ 3.7 แสนล้านเยน (2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สะท้อนความเชื่อมั่นว่าเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่จะสามารถรักษากระแสความนิยมได้อย่างต่อเนื่อง
การปรับเพิ่มคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนินเทนโดเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งสำหรับไตรมาสสิ้นสุดเดือนก.ย. โดยบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 8.825 หมื่นล้านเยน และรายได้ 5.272 แสนล้านเยน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัทระบุว่า ณ สิ้นเดือนก.ย. นินเทนโดสามารถจำหน่าย Switch 2 ไปแล้วถึง 10.36 ล้านเครื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าเป้าหมายใหม่ที่ 19 ล้านเครื่องอาจยังคงเป็นการประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง
ชุนทาโร ฟุรุคาวะ ประธานบริษัทนินเทนโด ยอมรับว่าการรักษากระแสความนิยมไม่ใช่เรื่องง่าย โดยชี้ให้เห็นถึงความท้าทายหลายประการ เช่น ราคาฮาร์ดแวร์ที่สูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ในไตรมาสล่าสุด นินเทนโดได้ใช้งบประมาณด้านการโฆษณาสูงถึง 6.46 หมื่นล้านเยน (เพิ่มขึ้น 80%) เพื่อกระตุ้นความสนใจในกลุ่มผู้เล่นอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มนักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขาย Switch 2 จะเร่งตัวขึ้นอีกในช่วงไตรมาสปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปลายปีครอบคลุมเทศกาลจับจ่ายช่วงคริสต์มาส ซึ่งไม่เคยมีครั้งใดที่ยอดขายต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรก จึงมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่นินเทนโดจะประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์อีกครั้ง ขณะที่นินเทนโดกำลังเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับอุปสงค์ที่ยังคงสูงกว่าอุปทาน โดยมีรายงานว่าบริษัทได้ขอให้พันธมิตรผู้ผลิตเร่งการประกอบเครื่องให้ได้ถึง 25 ล้านเครื่องภายในเดือนมี.ค. ปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 68)





