
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ [BEM] เปิดเผยว่า การลงทุนก่อสร้างทางด่วนขั้นที่สอง ( Double Deck ) และลดค่าทางด่วนในเมืองเป็น 50 บาทตลอดสาย จากเดิม 90 บาท มีความชัดเจนแล้ว อยู่ระหว่างรอนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายใน ธ.ค.68
ทั้งนี้ การลดค่าผ่านทางจะไม่กระทบกับรายได้ของ BEM ตามสัญญาเดิม เพราะจะมีการปรับส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางในเมืองเพื่อชดเชยให้แก่ BEM จากเดิม กทพ:BEM อยู่ที่ 60:40 เป็น 50:50
ส่วนการลงทุนสร้าง Double Deck กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาจราจร จะแลกกับการขยายสัมปทานออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน คาดว่าหลัง Double Deck เปิดให้บริการได้จะทำให้รถติดน้อยลง และส่งผลให้ปริมาณผู้ใช้ทางเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% รวมถึงทำให้ BEM มีสัมปทานที่มีคุณภาพและมีความมั่นคงยาวนานขึ้น
นายสมบัติ กล่าวว่า BEM ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่จะเติบโตอีกมากจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งปัจจุบันการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จ้าง BEM เดินรถส่วนเหนืออยู่ คาดว่ารัฐบาลจะอนุมัติให้ รฟม.เจรจากับ BEM ให้เดินรถต่อเนื่องภายในต้นปี 69 เพื่อทันกับงานก่อสร้างที่จะแล้วเสร็จในอีก 3 ปี
และ ยังมีโครงการทางหลวงพิเศษ M5 ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (รังสิต-บางปะอิน) และ M9 ทางยกระดับสายวงแหวนรอบนอก กทม. (บางขุนเทียน -บางบัวทอง) ซึ่ง BEM ให้ความสนใจจะเข้าร่วมการประมูลอย่างแน่นอน
มั่นใจ Q3/68 กำไรทำนิวไฮ
นายสมบัติ คาดว่ากำไร ของ BEM ใน Q3ปี68 จะสูงทำ New High อีกครั้ง และจะเพิ่มขึ้นทุกปี โดยรายได้และกำไรของทางด่วนและรถไฟฟ้าเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับทางด่วน ปัจจุบันผู้ใช้ทางเฉลี่ย 1.1 ล้านคัน/วันทำงาน เป็นธุรกิจที่มั่นคง ซึ่งสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดให้กับ BEM อย่างมาก
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ปัจจุบันผู้โดยสาร 5.2 แสนคน/วันทำงาน เป็นรถไฟฟ้าสายเดียวที่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่าก่อนเกิด Covid (ปี 62) เนื่องจากเป็นสายวงกลม (Circle line) สายหลักในเมืองที่ทุกสายได้ส่งผู้โดยสารเข้ามา และตลอดสายทางมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เช่น ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ One Bangkok Dusit Central Park
ในอีก 2 ปีข้างหน้า(หลังเปิดสายสีส้มตะวันออก) คาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มเป็น 6.5 แสนคน/วันทำงาน ซึ่ง BEM ได้ซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 21 ขบวนไว้รองรับแล้ว ส่วนรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันประมาณ 1,200ล้านบาท/ปี จะเติบโตขึ้นอีกกว่า 20% สอดคล้องกับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจรถไฟฟ้ามีการเติบโตสูง ต่อเนื่อง และมั่นคงในระยะยาวจากสัมปทานที่เหลืออีกกว่า 25 ปี
นอกจากนี้ BEM ยังมีรายได้จาก ค่า O&M รถไฟฟ้าสายสีม่วงกว่า 2.2 พันล้านบาท/ปี และ รถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเปิดให้บริการส่วนตะวันออกในปลายปี 70 และทั้งสายในปี 73
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 พ.ย. 68)





