สหรัฐฯ ยกเลิกคว่ำบาตรอาวุธต่อกัมพูชา หลังมีผลบังคับใช้มานาน 4 ปี

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ (ภาพ: thaigov.go.th)

คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) ว่า สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้มานานกว่า 4 ปี เนื่องจากกัมพูชามี “ความพยายามอย่างมุ่งมั่นเพื่อสันติภาพ”

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การตัดสินใจของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ ซึ่งได้รับความดีความชอบในการผลักดันให้กัมพูชาและไทยยุติความขัดแย้งบริเวณชายแดน ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงขยายการหยุดยิงระหว่างสองประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อปลายเดือนต.ค.

ตามประกาศของรัฐบาลกลาง (Federal Register) ระบุว่า นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจยกเลิกการคว่ำบาตร ได้ตัดสินใจยกเลิกการคว่ำบาตร “เนื่องจากกัมพูชามีความพยายามอย่างจริงจังในการสร้างสันติภาพและความมั่นคง รวมถึงการกลับมาสานต่อความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในด้านกลาโหมและการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ”

ประกาศดังกล่าวระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (7 พ.ย.) และเสริมว่า คำขอซื้อขายอาวุธใด ๆ กับกัมพูชา จะถูกพิจารณาเป็นรายกรณีไป

ก่อนหน้านี้ กัมพูชาเคยเสนอชื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ให้เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เพื่อยกย่องบทบาทของเขาในการช่วยยุติความขัดแย้งชายแดนครั้งนี้

ทั้งนี้ คณะบริหารของอดีตปธน.โจ ไบเดน ได้เริ่มมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวในเดือนธ.ค. 2564 โดยอ้างถึงปัญหาการทุจริตและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา ตลอดจนอิทธิพลทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)