
คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปยังทะเลตะวันออกในวันนี้ (7 พ.ย.) หรือเพียงหนึ่งวันหลังจากที่เกาหลีเหนือออกมาประณามมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า สหรัฐฯ ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึง “เจตนาเป็นปรปักษ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” ต่อเกาหลีเหนือ
JCS ตรวจพบการยิงขีปนาวุธใกล้กับเขตแทกวัน ในจังหวัดพยองอันเหนือ เมื่อเวลา 12.35 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยพิสัยของขีปนาวุธอยู่ที่ราว 700 กิโลเมตร ก่อนตกลงในทะเลตะวันออก พร้อมกับเสริมว่าเกาหลีใต้กำลังดำเนินการวิเคราะห์เพิ่มเติมร่วมกับทางสหรัฐฯ เพื่อระบุรายละเอียดของขีปนาวุธดังกล่าว
หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ตรวจพบสัญญาณการเตรียมตัวยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือล่วงหน้าแล้ว จึงมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทางสหรัฐฯ และญี่ปุ่นมาตลอด
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ก่อนที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเอเปค และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาหลีใต้
สำหรับการยิงขีปนาวุธในวันนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมิ.ย.
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 พ.ย.) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรบุคคล 8 ราย และองค์กร 2 แห่งในเกาหลีเหนือ ฐานมีบทบาทในการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายหลายรูปแบบ รวมถึงอาชญากรรมไซเบอร์และการฉ้อโกงแรงงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เตรียมยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เพื่อขอให้มีการคว่ำบาตรเรือ 7 ลำที่ลักลอบส่งออกถ่านหินและแร่เหล็กของเกาหลีเหนือไปยังจีน ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เดินหน้าคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับท่าทีของปธน.ทรัมป์ ที่แสดงความปรารถนาที่จะพบปะหารือกับคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)





