Shein คาดกำไรปี 68 พุ่งแตะ 2 พันล้านดอลล์ แม้เจอแรงกดดันจากภาษีทรัมป์

แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ชีอิน (Shein) แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นออนไลน์ยักษ์ใหญ่คาดว่า กำไรสุทธิปี 2568 จะพุ่งแตะ 2 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดขายมีแนวโน้มเติบโตในอัตราเลขสองหลักระดับกลาง หลังบริษัทปรับขึ้นราคาสินค้าและลดต้นทุนเพื่อรักษาอัตรากำไร ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีของสหรัฐฯ

การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่า กำไรของบริษัทอาจเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากระดับ 1.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 ซึ่งต่อยอดจากผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง ซึ่งกวาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านดอลลาร์ และรายได้พุ่งแตะเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากผู้บริโภคในสหรัฐฯ เร่งสั่งซื้อสินค้าก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะยกเลิกสิทธิ์ยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (de minimis)

แนวโน้มรายได้ทั้งปีที่สดใสซึ่งเปิดเผยเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มุ่งสร้างความเชื่อมั่นก่อนชีอินเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) ที่ล่าช้ามานานและยังคงไม่แน่นอน

ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายเห็นว่าแนวโน้มดังกล่าวสดใสเกินคาด เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ชีอินจะได้รับผลกระทบหลังการยกเลิกสิทธิ์ยกเว้นภาษี de minimis และยังไม่ชัดเจนว่ามีปัจจัยพิเศษใดเข้ามาหนุนตัวเลขดังกล่าวหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าชีอินสามารถผลักภาระภาษีไปยังผู้บริโภคผ่านการปรับขึ้นราคา พร้อมกับลดงบโฆษณา หลังคู่แข่งอย่างเทมู (Temu) ชะลอการทำตลาดในสหรัฐฯ ชั่วคราว ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร

อย่างไรก็ตาม ชีอินยังเผชิญความท้าทายหลายด้านในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะการที่หลายประเทศอาจเดินตามสหรัฐฯ ในการยกเลิกสิทธิ์ยกเว้นภาษี de minimis รวมถึงกรณีล่าสุดที่รัฐบาลฝรั่งเศสสั่งระงับแพลตฟอร์มของชีอิน หลังมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าต้องห้าม

แม้มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ แต่ชีอินยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ทำให้การเสนอขายหุ้นต้องได้รับอนุมัติจากทางการจีนก่อน

ปัจจุบัน ชีอินอยู่ระหว่างเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง หลังแผน IPO ในสหรัฐฯ และอังกฤษถูกขัดขวางด้วยปัญหาด้านการเมืองและกฎระเบียบ

ทั้งนี้ ชีอินเผชิญมูลค่ากิจการที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในการระดมทุนรอบปี 2566 บริษัทมีมูลค่ากิจการ 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้ในอดีตเคยมีมูลค่าถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ และล่าสุดยังมีรายงานว่าบริษัทถูกกดดันให้ปรับลดมูลค่ากิจการลงอีกครึ่งหนึ่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 68)