AF ยกระดับธุรกิจสู่ Green Finance หนุนปล่อยสินเชื่อกลุ่มธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมกว่า 700 ลบ.

นายอัครวิทย์ สุกใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แฟคตอริ่ง [AF] เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้ายกระดับแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างความสมดุลระหว่างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พร้อมๆ กับการสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างยั่งยืน

โดย AF ได้มีการเปิดตัว “โครงการ AF GREEN Project” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ และล่าสุดมีการปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่มีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ธุรกิจพลังงานสะอาด (Solar Cell), ธุรกิจรีไซเคิล และผู้ให้บริการบำบัดอากาศและน้ำเสีย

“โครงการ AF GREEN Project เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AF ในการสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนใน 3 มิติหลัก (ESG) ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว อาทิ 1.) การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และปลูกฝัง ESG DNA ให้แก่พนักงานทุกระดับ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกฝ่ายงานเข้าใจและมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน 2.) จัดทำ Carbon Footprint เพื่อเป็นข้อมูลตั้งต้นสำหรับการกำหนดเป้าหมาย และแผนการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม 3.) ยกระดับการให้บริการในรูปแบบออนไลน์ (Online Factoring & e-Factoring) เพื่อขยายฐานลูกค้า เร็ว สะดวก เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และลดต้นทุนการดำเนินงาน 4.) โครงการ Green Project เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจรักษ์โลก โดยได้รับอัตราค่าใช้จ่ายพิเศษ 5.) การทำโครงการ CSR เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม 6.) ให้ความรู้ทางด้านการเงิน แก่ผู้ประกอบการผ่านสมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง และสมาคมการค้าต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจ SMEs เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างการจ้างงาน และส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย”

อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นส่งผลให้ AF ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 20% และคาดว่าปริมาณธุรกรรมจะเพิ่มขึ้นกว่า 30% ในปี 2569 ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อรวมเติบโต 6% จากปี 2567 นอกจากนี้ ยังคงมุ่งเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, พันธมิตรแพลตฟอร์ม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมองว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจ SMEs และ Start-Up สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากภาค Non Bank ได้ด้วยต้นทุนการเงินที่ลดลง

“ด้วยกลยุทธ์การขับเคลื่อนองค์กร ตลอดช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าธุรกิจแฟคตอริ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยสนับสนุนในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ และสามารถ สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนได้ในอนาคต” นายอัครวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 68)