
บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT] เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3/68 รายได้รวม 127,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 1,854 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,952 ล้านบาท เป็นผลหลักมาจากการลดลงของอัตรากำไรขั้นต้น
ผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง ด้วยรายได้รวม 386,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% YoY และมีกำไรสุทธิ 6,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8%YoY สะท้อนศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงจากทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยได้รับแรงหนุนจาก การขยายสาขารวม 100 สาขาทั่วประเทศ การเติบโตของยอดขายนอกร้าน ทั้งจากการขายผ่านทีมขาย B2B และผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เติบโตโดดเด่นถึง 31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Grocery E-Commerce Platforms อันดับ 1 ของไทย กลุ่มสินค้าอาหารซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง การเติบโตของสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (“Private label”) ที่ช่วยสร้างความแตกต่าง และหนุนภาพรวมรายได้ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังสามารถบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสัดส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมลดลงมาอยู่ที่ 13.4% สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานและวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่ง
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT] กล่าวว่า “แม้เผชิญความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจภายนอก บริษัทฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากกลยุทธ์การดำเนินงานที่ยืดหยุ่นและปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี และ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งกิจกรรมทางการตลาดเฉพาะกลุ่ม (Personalization)
อีกทั้งบริษัท ยังเดินหน้าขยายสาขาและพัฒนาพื้นที่เช่าในทำเลศักยภาพให้เป็น ‘พื้นที่ความสุขของชุมชน’ (Happy Mall) และเราเชื่อมั่นว่าด้วยความต่อเนื่องของยุทธศาสตร์ทั้งหมดนี้ ร่วมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งเป็นแรงบวกช่วยหนุนการบริโภคและการท่องเที่ยวในไฮซีซันปลายปีนี้ เชื่อว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างโอกาสเติบโตต่อเนื่องได้ในไตรมาสถัดไป”
และด้วยเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำค้าปลีกระดับภูมิภาค ซีพี แอ็กซ์ตร้า เดินหน้าขยายธุรกิจ โดยร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Ayala Corporation กลุ่มธุรกิจชั้นนำของฟิลิปปินส์ เพื่อเตรียมขยายสาขาสู่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังได้เข้าซื้อกิจการในกลุ่มบริษัท Renewed Hope Pte. Ltd. ภายใต้แบรนด์หลัก Lucky Frozen ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ เริ่มรับรู้ผลประกอบการทันที และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจฟูดเซอร์วิส สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายธุรกิจในภูมิภาค
ซีพี แอ็กซ์ตร้า มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ โดยยึดหลักการดำเนินงานตามแนวทาง ESG เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับการประเมิน MSCI ESG Rating 2025 ในระดับ “A” สูงขึ้นจากระดับ BBB ในปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 68)





