
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข้อกังวลว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐอเมริกา ว่า การหารือทางการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ
โดยประเด็นแรกที่ต้องทำความเข้าใจ คือ กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงร่วม (Joint Declaration) ก่อน และเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีความสูญเสียต่อฝ่ายไทย ซึ่งรัฐบาลไทยไม่สามารถยอมรับได้ และเชื่อว่ารัฐบาลของทุกประเทศ ไม่สามารถยอมรับการกระทำในลักษณะนี้ได้เช่นเดียวกัน
“ฝ่ายสหรัฐฯ จึงควรเข้าใจข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ และไม่ควรนำสถานการณ์ดังกล่าว มาเป็นเหตุผลในการชะลอ หรือหยุดการเจรจาการค้ากับไทย” นางศุภจี กล่าว
พร้อมระบุว่า จากการพบปะหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ แยกประเด็นทางการเมืองออกจากการค้า และยังคงมีเจตนารมณ์ที่จะผลักดันให้การเจรจาสำเร็จภายในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับท่าทีของไทย และความต้องการของภาคเอกชนทั้ง 2 ประเทศ ที่ต้องการเห็นความชัดเจนในการค้าและการลงทุน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council: USABC) ในโอกาสเยือนประเทศไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ภายใต้ USABC โดยทุกฝ่ายมีมุมมองตรงกันว่า ไทยเป็นประเทศสำคัญในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง นักธุรกิจสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทเชิงรุกของไทยในการขยายตลาดการค้า ผ่านการเจรจาเปิดตลาดและข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงประเด็นนโยบายภาษีของสหรัฐฯ (US Tariff) ซึ่งภาคเอกชนสหรัฐฯ มองว่าเป็นประเด็นที่มีทั้ง “โอกาสและความท้าทาย” ต่อบริษัทอเมริกันเอง โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีฐานการผลิต หรือห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย ซึ่งไทยยังคงเป็นฐานการผลิตสำคัญ และเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ
นางศุภจี กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าหลักของไทย และรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุล และความสัมพันธ์อันดีกับประเทศคู่ค้าที่เป็นมิตร พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์ จะยังคงเดินหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์ของภาคการส่งออกของไทย ควบคู่กับการแสวงหาตลาดใหม่ และส่งเสริมสินค้าไทยในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายเร่งขยายตลาดใหม่ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง โดยใช้กลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการเจรจาเปิดตลาด การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ และการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยใช้ประโยชน์จากผลการเจรจา และกิจกรรมส่งเสริมการค้า” รมว.พาณิชย์ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)





