
ความเชื่อมั่นของบริษัทจีนที่ดำเนินธุรกิจในสหภาพยุโรป (EU) ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองและต้นทุนที่สูงขึ้น
รายงานจากหอการค้าจีนประจำ EU ร่วมกับโรแลนด์ เบอร์เกอร์ (Roland Berger) บริษัทที่ปรึกษา ระบุว่า บริษัทจีนให้คะแนนสภาพแวดล้อมธุรกิจใน EU เพียง 61 คะแนนจาก 100 คะแนนในปี 2568 ลดลงจาก 73 คะแนนในปี 2562
ราว 81% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยชี้ไปที่การเมืองที่เข้ามามีบทบาทในประเด็นทางการค้า และการออกมาตรการใหม่จำนวนมากที่ถูกเรียกว่า “เขาวงกตของการปฏิบัติตามกฎระเบียบ”
รายงานระบุว่า ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นและแรงกดดันทางการเมืองสร้างแรงกดดันทั้งสองด้านต่อบริษัทจีนใน EU โดยต้นทุนแรงงานถูกมองว่าเป็นความท้าทายอันดับหนึ่ง รองลงมาคือความซับซ้อนทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายที่เปลี่ยนไปของ EU และประเทศสมาชิกที่มีต่อจีน
มากกว่า 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า เคยถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมเพราะเป็นบริษัทจีน เช่น การอนุมัติล่าช้า โอกาสในการได้รับเงินสนับสนุนลดลง และมีช่องทางสื่อสารกับเจ้าหน้าที่จำกัด
ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า เกือบ 90% ของบริษัทจีนมองว่า นโยบายลดความเสี่ยง (de-risking) ของ EU และประเด็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานผ่านการตรวจสอบการลงทุนที่เข้มงวดขึ้น ข้อจำกัดในการเข้าตลาดสูงขึ้น และความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่เพิ่มขึ้น
แม้ว่าความเชื่อมั่นลดลง แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทจีนยังคงแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 มี 53% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามรายงานว่า รายได้เพิ่มขึ้น และ 40% ระบุว่ากำไรสูงขึ้น
สำหรับปี 2568 บริษัท 62% คาดว่ารายได้จะเติบโต และครึ่งหนึ่งวางแผนเพิ่มการลงทุนใน EU โดยไม่มีบริษัทใดรายงานแผนลดการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า จนถึงสิ้นปี 2567 มีบริษัทที่ลงทุนโดยจีนเกือบ 3,000 แห่งดำเนินธุรกิจใน 27 ประเทศสมาชิกของ EU และจ้างพนักงานท้องถิ่นมากกว่า 260,000 คน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)





