SUN โค้งท้ายปี 68 ออเดอร์พุ่งกว่า 2,000 ตู้ ดีมานด์ในประเทศคึกคัก จ่อเปิดตัว “พุดดิ้งน้ำลำไย” เสริมพอร์ต

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซันสวีท [SUN] เปิดเผยทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 4/68 มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานเทศกาลในช่วงปลายปี โดยบริษัทมีคำสั่งซื้อรอส่งมอบประมาณ 2,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจะทยอยส่งมอบจนถึงไตรมาส 1/2569 ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และความนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ขยายตัว เป็นปัจจัยกระตุ้นยอดขายภายในประเทศให้เติบโต ปัจจุบันบริษัทมียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 30%

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการจัดการคำสั่งซื้อ โดยให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรัดกุม โดยเปิดกว้างในการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินอื่นๆ นอกเหนือจากดอลลาร์สหรัฐฯ อาทิ เงินบาท, เงินหยวน, ยูโร และ เงินปอนด์ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินในตลาดโลก เสริมความยืดหยุ่นให้กับการดำเนินงาน และ รักษาเสถียรภาพของผลประกอบการในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังคงผันผวนจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันได้พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนเพาะปลูกร่วมกับเกษตรกร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอต่อการผลิต ตลอดจนพัฒนานวัตกรรมการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร อาทิ อาคารผลิตบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการในช่วงไตรมาส 2/2569

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในร้านสะดวกซื้อและกลุ่มธุรกิจ HoReCa (Hotel, Restaurant, Café & Catering) เพื่อรองรับดีมานด์จากนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีแผนนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และ ตอบโจทย์ความหลากหลายของตลาดในประเทศ พร้อมทั้งเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “พุดดิ้งน้ำลำไย” ภายใต้แบรนด์ “KC” เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความสะดวกในการบริโภค

“ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 ยังคงมีแนวโน้มเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนของยอดขายที่เพิ่มขึ้นและปริมาณวัตถุดิบที่เพียงพอต่อการผลิต เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า รวมถึงปัจจัยด้านนโยบายภาษีทางการค้าของทวีปยุโรปที่เอื้อต่อการขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในการเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ค่าเงินและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 2,664.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% และ มีกำไรสุทธิ 159.10 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 876.7 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 24.4 ล้านบาท จากยอดขายภายในประเทศที่เติบโตขึ้น และบริษัทสามารถผลิตสินค้าได้เต็มกำลังการผลิต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 68)