ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดแคมเปญ “เปิดฟ้าใหม่ไล่เมฆเทา” เดินหน้าทำการเมืองสุจริต ขจัดทุนเทา ผู้มีอิทธิพล รวมถึงปัญหาสแกมเมอร์ โดยระบุว่า จากที่ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังออกร่างกฎหมายการต่อต้านสแกนเมอร์ และขึ้นบัญชีดำ (แบล็คลิสต์) 43 รายชื่อนั้น ซึ่งหากใน 43 คนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ก็จะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกตรวจสอบจากนานาชาติ และตกเป็นเป้าสายตาของนานาชาติว่าไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน
โดยยืนยันว่า การทำแคมเปญนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มุ่งหวังโจมตีทางการเมือง แต่ทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโดยคณะทำงานพรรคฯ พบการกระทำต้องสงสัยของบุคคล เช่น นายยิม เลี๊ยก นักธุรกิจชาวกัมพูชา, นายเบญจามินทร์ เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักธุรกิจและล็อบบี้ยิสต์ รวมถึงยังเชื่อมโยงบริษัท และสถาบันการเงิน ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น B.I.C. BANK CAMBODIA และ B.I.C. BANK LAOS ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 330 บาท แต่สามารถซื้อบริษัทที่มีทุนขนาดใหญ่ และกู้เงินได้มากกว่า 600 ล้านได้ หรือรวมถึงบริษัทที่หลีกเลี่ยงกฎหมาย พยายามนำต่างด้าวมาเป็นนอมินีถือหุ้นอย่างซับซ้อน เพื่อให้เกิน 49% ตามที่กฎหมายไทยจำกัด หรือเชื่อมโยงบริษัทพลังงานใหญ่ของประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับอดีตรัฐมนตรีช่วยคนหนึ่ง
“พรรคจะใช้หลักสากลมาตรวจสอบ โดยเฉพาะธุรกรรมการเงิน เพื่อให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งต่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องของรัฐตรวจสอบ เช่น ปปง., ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่ออายัดเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงถึงการเมือง เพราะหลายเหตุการณ์มีการตั้งข้อสังเกต มีบุคคลพยายามเข้ามาถือหุ้นบริษัทพลังงานไทย และยังอาจโยงถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนด้วย เมื่อพรรคประชาธิปัตย์รวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้น หัวหน้าพรรค จะแถลงข้อเรียกร้อง และข้อเสนอของพรรคฯ” ร.ต.อ.พงศกร กล่าว
เมื่อถูกตั้งข้อสังเกตว่าช่วงที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเข้ามาแตะเรื่องนี้นั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมา พรรคฯ ได้ดำเนินการมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย แต่ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน อาจไม่ได้ดำเนินการ และถือเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ต้องช่วยกันตรวจสอบ
พร้อมยืนยันว่า พรรคฯ จะทำเพื่อประโยชน์ประเทศ โดยหลังจากนี้ พรรคจะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อีกครั้ง เพื่อให้สังคมเห็นความเชื่อมโยง และให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการต่อไป
“อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยึดถือการเมืองสุจริต จึงต้องการทำให้เป็นตัวอย่างการเมืองสุจริต เพราะหากการเมืองทุจริต ก็จะเป็นปัญหาอย่างที่เกิดขึ้น เช่น ดีลลับ เรื่องเทา หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 68)
