
ประชาชนชาวฟิลิปปินส์หลายแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงในกรุงมะนิลาเป็นวันที่สองในวันนี้ (17 พ.ย.) เพื่อเรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบต่อคดีคอร์รัปชันโครงการป้องกันอุทกภัย
การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นสามวัน (16-18 พ.ย.) และมีผู้เข้าร่วมกว่า 6 แสนคน โดยแกนนำการชุมนุมคือ Iglesia Ni Cristo โบสถ์ที่มีสมาชิกราว 2 ล้านคน
รายงานระบุว่า ผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากแสดงความไม่พอใจต่อความล่าช้าและความไม่โปร่งใสในการสืบสวนความผิดปกติของหลายโครงการที่ส่อเค้าว่ามีการทุจริต
ทั้งนี้ เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ได้ออกมาเปิดโปงด้วยตัวเองว่า มีความผิดปกติในโครงการป้องกันอุทกภัย โดยผลการสืบสวนพบการสมรู้ร่วมคิดระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการ และผู้รับเหมา เพื่อยักยอกเงินงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้โครงการไม่เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่มีการก่อสร้างเกิดขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.มาร์กอสประกาศกร้าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชันโครงการป้องกันอุทกภัยจะต้องถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกก่อนคริสต์มาสนี้
ประเด็นเรื่องการทุจริตโครงการป้องกันอุทกภัยส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และนักวิเคราะห์มองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในไตรมาส 3/2568 ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากทำให้ภาครัฐต้องระงับโครงการสำคัญหลายโครงการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ย. 68)





