
บราซิลยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการประชุม COP30 ได้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 พ.ย.) อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล ยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่าการประชุมสุดยอดในช่วง 2 วันสุดท้ายจะมีความคืบหน้า แม้บรรดาชาติสมาชิกยังคงมีความเห็นต่างในประเด็นสำคัญ
รายงานระบุว่า ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม COP30 ณ เมืองเบเล็ง บราซิลตั้งเป้าที่จะผลักดันให้เกิดข้อตกลงในประเด็นที่มีความขัดแย้งสูง อาทิ การยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และการระดมเงินทุนเพื่อสภาพภูมิอากาศ
ปธน.ลูลาได้ใช้เวลาตลอดทั้งวันในการหารือร่วมกับคณะผู้แทนจากกลุ่มเจรจาหลักเพื่อหาข้อสรุป โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมว่า “ผมมีความสุขมากและมั่นใจว่าทีมเจรจาจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่การประชุม COP เคยมีมาให้กับโลกใบนี้”
เดิมทีบราซิลหวังจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ด้วยการปิดการเจรจาให้ได้ตามกำหนดการ แต่ร่างข้อตกลงฉบับแก้ไขที่สัญญาไว้กลับไม่แล้วเสร็จในวันพุธ และคาดว่าจะมีการนำเสนอได้ในวันพฤหัสบดีนี้ (20 พ.ย.)
แม้การประชุมครั้งนี้จะมีตัวแทนจากเกือบ 200 ประเทศเข้าร่วมเพื่อยกระดับความร่วมมือพหุภาคีในการจำกัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยไร้เงาตัวแทนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ความขัดแย้งในประเด็นหลักยังคงมีอยู่
ประเด็นสำคัญที่เป็นหัวใจของการเจรจา COP30 คือข้อตกลงในการจัดทำ “โรดแมป” (Roadmap) เพื่อเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
กลุ่มประเทศยุโรป รวมถึงเยอรมนี เคนยา และสหราชอาณาจักร ได้ร่วมกันผลักดันข้อตกลงโรดแมปดังกล่าว แต่จนถึงวันพุธที่ผ่านมา มีเพียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งของชาติสมาชิกที่แสดงท่าทีสนับสนุน ล่าสุด สหภาพยุโรป (EU) จึงได้ยื่นข้อเสนอใหม่ โดยระบุให้ประเทศต่าง ๆ เสนอโรดแมปโดยอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่จะเป็นไปในลักษณะไม่ผูกมัด เพื่อจูงใจให้ประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมมากขึ้น
นอกจากเรื่องโรดแมปแล้ว ยังมีประเด็นขัดแย้งอื่น ๆ ได้แก่ กลไกการระดมเงินทุนจากประเทศร่ำรวยเพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และมาตรการจัดการกับช่องว่างระหว่างคำมั่นสัญญาในการลดการปล่อยก๊าซกับเป้าหมายที่จำเป็นต้องทำให้ได้จริง
อย่างไรก็ดี มีสัญญาณบวกในประเด็นเจ้าภาพการจัดงานครั้งต่อไป โดยแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ตุรกีและออสเตรเลียใกล้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน โดยตุรกีจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน COP31 ในปีหน้า ขณะที่ออสเตรเลียจะรับบทบาทผู้นำการเจรจาระหว่างรัฐบาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ย. 68)





