
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ที่ 3.78 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบประมาณแบบขาดดุลที่ 7.88 แสนล้านบาท ประมาณการรายได้สุทธิที่ 3 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ การจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายดังกล่าว กระทรวงการคลัง ได้ประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2570 ไว้ที่ 2.1-31.% (ค่ากลาง 2.6%) ดีขึ้นจากปี 2569 ซึ่งคาดว่า GDP จะขยายตัวได้ 1.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในปี 2570 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.4-1.4% (ค่าเฉลี่ย 0.9%) และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.9% ของ GDP
“รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับนโยบายการเงิน ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่มีแนวทางขยายเพดานหนี้สาธารณะ และการลงทุนในปี 2570 จะเป็นไปตามสัดส่วนตามวินัยการเงินการคลัง คือมีงบประมาณสำหรับงบลงทุน 20%
ส่วนที่มีการมองกันว่างบประมาณเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% จะทำให้มีงบประมาณเพียงพอในการพัฒนาประเทศหรือไม่นั้น นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลใช้นโยบายในการบริหารการเงินการคลัง โดยจะไปตัดรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ซึ่งที่ผ่านมา มีคำถามมาโดยเสมอว่า การชดใช้เงินคงคลังเป็นไปในอัตราที่สูงเกินไปหรือไม่ ทำให้มีภาวะเงินบาทแข็งค่าเกินไปหรือไม่ เงินเฟ้อต่ำเกินไปหรือไม่ ซึ่งปีหน้า (69) คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.9% ซึ่งสูงกว่าปีนี้ 0.2% เดิมเราจะชดเชยเงินคงคลังประมาณ 1.2 แสนล้านบาท แต่ปีหน้า จะมีการชดเชยเงินคงคลัง 7 หมื่นล้านบาท
ส่วนการลงทุนภาครัฐในปีหน้านั้น รัฐบาลจะเน้นนโยบายทำ PPP และไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ส ฟันด์ สำหรับการดึงเอกชนมาลงทุนในสาธารณูปโภคที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศเป็นหลัก ดังนั้น ในกรอบงบประมาณรายจ่ายนี้ รัฐบาลยังเชื่อว่าจะสามารถทำให้เศรษฐกิจปี 2570 เติบโตได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)





