ครม. ไฟเขียวเหมาจ่ายรถไฟฟ้าสายสีแดง-สีม่วง 40 บาทตลอดทั้งวัน ลดให้นร.-นศ.เหลือ 30 บาท

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 68 ถึง 30 พ.ย. 69 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องหลังจากมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสายสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พ.ย. 68

โดยการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน ดังนี้

  • กลุ่มบุคคลทั่วไป อัตราค่าโดยสารสูงสุด 40 บาท/วัน
  • กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา อัตราค่าโดยสารสูงสุด 30 บาท/วัน

ส่วนกลุ่มผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเด็ก สามารถเลือกใช้สิทธิตามมาตรการที่เสนอในครั้งนี้ หรือใช้สิทธิเดิมตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของผู้ให้บริการรถไฟฟ้า ดังนี้

  • กลุ่มผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับวงเงินตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 750 บาท/เดือน โดยคิดค่าโดยสารในอัตราปกติ/เที่ยว
  • กลุ่มผู้พิการและกลุ่มเด็ก ส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม. ได้รับสิทธิใช้บริการฟรี
  • กลุ่มผู้พิการและกลุ่มเด็ก ส่วนสูงเกิน 90 ซม. แต่ไม่เกิน 120 ซม. ได้รับส่วนลด 50% จากค่าโดยสารในอัตราปกติ/เที่ยว

ทั้งนี้ กำหนดประเภทบัตรโดยสารเพื่อรองรับมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน คือ บัตร EMV Contactless Card

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) พิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวันมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้สิทธิ จากเดิม ผู้โดยสารจ่ายค่าโดยสารในอัตราไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เป็น ผู้โดยสารจะต้องใช้บัตรโดยสารตามที่กำหนดไว้ จึงจะได้สิทธิค่าโดยสารเหมาจ่ายรายวัน จึงอาจส่งต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงและรถไฟฟ้าสายสีม่วงในช่วงเริ่มต้นมาตรการรายวัน

ดังนั้น คมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) การรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จึงควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงเงื่อนไขการใช้งานสิทธิโดยทั่วกัน ก่อนเริ่มดำเนินมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน

นอกจากนี้ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ประเมินผลการดำเนินมาตรการเป็นรายปี โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปริมาณผู้โดยสารและรายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาระการชดเชยจากภาครัฐ และคำนึงถึงความสะดวกสบายในการเดินทางและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน เป็นต้น เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินมาตรการในระยะยาวต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)