ปธ.ชมรม IB ผ่าวิกฤติ IPO ชง ก.ล.ต.แก้ปมต่ำจองรื้อเกณฑ์ขายหุ้นรายย่อย-คลายกฎเหล็กจูงใจเข้าตลาดหุ้น

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะประธานชมรมวาณิชธนกิจ (Investment Banking:IB) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ถึงวิกฤตตลาด IPO ที่ซบเซาหนักว่า ทิศทางการระดมทุนของ IPO ลดลงทั้งในแง่ของมูลค่าการระดมทุนและจำนวนบริษัท โดยในปี 65 เคยมีการระดมทุนในระดับ 1 แสนล้านบาท จำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ราว 30-40 แห่ง แต่ปี 66 ลดลงเหลือ 4 หมื่นล้านบาท ปี 67 ลดมาอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท และล่าสุดปี 68 เหลือเพียง 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่เพียง 17 แห่ง ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่เคยมีปีละ 30-40 บริษัท

สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อสถานการณ์ IPO ได้แก่ บรรยากาศการลงทุนที่ไม่เอื้ออำนวย ปริมาณการซื้อขายต่อวันต่ำ ขณะที่เกณฑ์การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ควบคุมทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณที่ถูกยกระดับให้มีความเข้มข้นขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการระดมทุนสูงขึ้นกว่า 3 เท่า

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ควรปรับปรุงในขณะนี้คือ การทำให้กลไกการจัดสรรหุ้น IPO มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจัดสรรให้กับนักลงทุนที่มีความสนใจและเข้าใจตัวธุรกิจมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน ลดจำนวนการจัดสรรหุ้นให้กับบุคคลทั่วไปในวงกว้าง เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปัจจุบันส่งผลให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทำให้ผู้ที่จองซื้อหุ้น IPO แต่ไม่เข้าใจในตัวธุรกิจเลือกขายหุ้นออกไปในวันแรกที่นำหุ้นเข้าเทรด ซึ่งเป็นการขายโดยไม่ได้พิจารณาเชิงพื้นฐานของตัวบริษัทนั้น ๆ เมื่อปริมาณการกระจายหุ้นกลุ่มนี้มีสัดส่วนที่สูงส่งผลให้ราคาต่ำจองในวันแรก ตอกย้ำความรู้สึกของนักลงทุนไม่เชื่อมั่นมากขึ้น

ดังนั้น คณะทำงานจึงเตรียมเสนอคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาปรับเกณฑ์การจัดสรรหุ้น IPO ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัท ซึ่งรวมไปถึงกรรมการ และพนักงาน (RP) เพิ่มขึ้นจากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 25% ให้เป็นไม่เกิน 40% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย เพื่อเพิ่มสัดส่วนของผู้ลงทุนที่มีความเชื่อมั่นและพร้อมถือหุ้นในระยะยาว

“ระยะสั้นมองว่าการจัดสรรหรือกระจายหุ้น IPO ให้กับผู้ที่สนใจจริง ๆ ผู้ที่มีความเชื่อมั่น และผู้ที่เข้าใจกิจการนั้น ๆ จริง ในสัดส่วนที่มากขึ้น จะช่วยทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากกว่าการกระจายเป็นวงกว้าง แล้วทำให้นักลงทุนที่อาจไม่เข้าใจในธุรกิจหรือไม่ได้เชื่อมั่นกับบริษัทมากนักเข้ามาจองหุ้นหวังกำไรระยะสั้น”นายสมศักดิ์ กล่าว

เดิมก่อนที่จะมีการปรับเกณฑ์การจัดสรรหุ้น IPO นั้น ราคาเปิดเทรด IPO หลายตัวปรับตัวเพิ่มขึ้น 200% หรือ Ceiling ต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยงานที่กำกับดูแลในขณะนั้นมองว่าการจัดสรรหุ้นกระจุกตัวในปริมาณสูง ทำให้ราคาไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จึงสนับสนุนให้กระจายหุ้นให้รายย่อย แต่ภาวะตลาดในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตมากแล้ว อีกทั้ง ตลท.ก็มีกลไก Surveillance ในเชิงการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติอยู่แล้ว ดังนั้น อยากเสนอให้ทบทวนเกณฑ์ในเชิงจัดสรรให้ผู้ที่มีความเข้าใจในบริษัทจริงเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดในภาพใหญ่

ด้านนายสรวิศ ไกรฤกษ์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ และสายงานการตลาด ตลท.ระบุว่าในการหารือครั้งนี้ยังได้มีการพูดถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบันและบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) ที่บางแห่งมีกองทุนรวมสำหรับลงทุนในธุรกิจ SME หรือธุรกิจขนาดเล็ก โดยทาง FETCO ระบุว่าจะนำประเด็นดังกล่าวไปหารือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) ถึงความเป็นไปได้หรือแนวทางสนับสนุนให้มีการตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก มองว่าจะเข้ามาช่วยหนุนหุ้น IPO ขนาดกลางและเล็กที่แต่เดิมจัดสรรให้รายย่อยเป็นส่วนใหญ่

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้จะมีการหารือเพื่อทบทวนกฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบบางอย่างให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน และเอื้อกับผู้ออกหลักทรัพย์ได้บ้าง และสร้างความจูงใจให้บริษัทเข้ามาระดมทุน โดยไม่ได้หมายความว่าต้องหย่อนเกณฑ์ แต่เป็นการพิจารณาลดกระบวนการให้คล่องตัว รวมทั้งอาจต้องเพิ่มระดับการกำกับดูแลบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มีความสมดุลควบคู่ไปกับการยกระดับกำกับดูแลบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียน

“ผมเชื่อว่าการคัดคุณภาพเด็กเข้าไปในโรงเรียนเข้มข้นมาก ก็ไม่ได้การันตีว่าเด็กเข้าไปแล้วจะดี ควรจะเข้าไปกำกับดูแลหลังจากเด็กเข้าไปแล้วให้ยังรักษากฎระเบียบได้อย่างไรมากกว่า”นายสมศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้นายสมศักดิ์ ยังได้พูดถึงกรณีที่ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) กับบทบาทคนทำ IPO ถูกก.ล.ต. พักความเห็นชอบ ว่า ก.ล.ต. ลงโทษ FA ที่ทำงานไม่เรียบร้อย ในขณะที่ยื่นคำขออนุญาต ซึ่งคำขออนุญาตเหล่านั้นไม่ถูกอนุญาตออกมา กรณีที่มีปัญหาถูกถอนไฟลิ่งออกไปไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยฯ จึงไม่ได้หมายความว่า FA นำดีลไม่ดีเข้ามาแล้วถูกลงโทษ เพราะบริษัทที่ไม่มีคุณภาพก็ไม่ได้เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)