
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ซึมตัว เมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้าจึงไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ ทำให้ขาดปัจจัยชี้นำจากต่างประเทศ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ลงหลุด 1,260 จุด แต่วันนี้เป็นวันสำคัญเนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของเดือน พ.ย.68 หากไม่สามารถยืนเหนือ 1,260 จุดได้น้ำหนักจะเป็นลบมากขึ้นและเป็นโมเมนตัมลบต่อเนื่องไปยังเดือนหน้า
ภาพรวมตลาดยังมีความกังวลสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ แม้เริ่มคลี่คลายแต่ความเสียหายและการฟื้นฟูอาจต้องใช้เวลา ซึ่งอาจกระทบการท่องเที่ยวไตรมาส 4/68 โดยภาคใต้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียที่ก่อนหน้านี้เข้ามาค่อนข้างมาก ถ้าลดลงช่วงปลายปีจะกลายเป็นดาวน์ไซด์ และกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจได้
นอกจากนี้สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังเป็นภาพลบต่อการเมือง อาจมีผลต่อความมั่นคงของรัฐบาล ทำให้มีความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น เนื่องจากอาจมีการยุบสภาเร็วกว่ากำหนด
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางต่ำที่สุดของปีนี้หากไม่นับรวมวันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เปิดเทรดเพียงครึ่งวัน ทำให้การเคลื่อนไหวของดัชนีมีความผันผวนได้ง่ายขึ้น
โดยให้กรอบแนวรับ 1,245-1,250 จุด ถัดไป 1,230 จุด และแนวต้าน 1,260-1,265 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 พ.ย.) ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
– ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดผันผวน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 50,218.96 จุด เพิ่มขึ้น 51.86 จุด หรือ +0.10%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,011.06 จุด เพิ่มขึ้น 65.13 จุด หรือ +0.25% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,870.94 จุด ลดลง 4.32 จุด หรือ -0.11%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 พ.ย.) 1,252.71 จุด ลดลง 8.47 จุด (-0.67%) มูลค่าซื้อขาย 23,180.98 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (27 พ.ย.) 868.45 ล้านบาท
– ตลาดน้ำมันปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 พ.ย.) อยู่ที่ 4.93 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.21 แกว่งกรอบแคบ ไร้ปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง จับตา Flow ช่วงสิ้นเดือน
– ‘อนุทิน’ นั่งหัวโต๊ะเคาะมาตรการเยียวยาน้ำท่วมใต้ ทั้งช่วยเหลือ-เยียวยา-ฟื้นฟูโฆษก ศป.กฉ.ทั้งพักหนี้ พักดอกเบี้ย 6 เดือน ยกเว้นภาษีรายได้ ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ให้สินเชื่อ 0% นาน 6 เดือน รวมทั้งมาตรการภาษีช่วยค่าซ่อมบ้าน ซ่อมรถที่เสียหายจากน้ำท่วม จ่ายเยียวยาเหยื่อศพละ 2 ล้าน ขณะที่ประกันสังคมจ่ายชดเชยว่างงานจากเหตุสุดวิสัย 50% นาน 6 เดือน เพิ่มเงินทดรองจ่ายให้ผู้ว่าฯ เป็น 100 ล้าน จากเดิม 50 ล้านเพื่อให้ใช้จ่ายช่วยเหลือชาวบ้านได้สะดวกขึ้น
– นายกรัฐมนตรีสั่งการ คปภ. ประสานบริษัทประกันภัย ให้เร่งจ่ายเคลมประกันภัยบ้าน และรถยนต์ในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ให้เงินถึงมือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด และลด ขั้นตอนการขอเคลมประกัน โดยให้ใช้เพียงรูปถ่าย ส่งทางไลน์ อีเมล หรือ แอปพลิเคชัน ให้กับบริษัทประกันภัยเป็นหลักฐานในการเคลมประกัน
– คลังเผยเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.68 ยังไปต่อ อานิสงส์ส่งออกโตต่อเนื่อง 16 เดือนติดหนุนเต็มพิกัด สวนทางลงทุนภาคเอกชน-นักท่องเที่ยวต่างชาติแผ่ว จับตาผลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ-สถานการณ์น้ำท่วมใต้ และความขัดแย้งในหลายภูมิภาค หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย
– รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ เตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาโครงการ “Buy International, Free Thailand Domestic Flights” จะสนับสนุนตั๋วเครื่องบินภายในประเทศให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ซื้อตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศเข้ามาไทยในราคาเต็มเพื่อกระตุ้นการเดินทางในประเทศ และทำให้ท่องเที่ยวกระจายตัวไปในเมืองน่าเที่ยว รวมถึงมีวันพำนักอยู่ในประเทศไทยนานขึ้นด้วย พยายามผลักดันให้เริ่มได้ใน ม.ค.-เม.ย.69
– การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มอบของขวัญปีใหม่ จัดแคมเปญคืนค่าผ่านทาง Easy Pass 50% วันที่ 6 มกราคม 2569 เฉลิมฉลองครบรอบ 53 ปี พร้อมประกาศทิศทางการพัฒนาระบบทางพิเศษ มุ่งยกระดับการให้บริการรองรับอนาคตการเดินทางของประเทศ เตรียมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไร้คนขับ พร้อมเพิ่มช่องทางชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติให้ได้ 70% ภายในปี 2570
– GULF (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท ผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ดี คาดแนวโน้ม Q4/68 ยังสามารถเติบโตได้ โดยได้แรงหนุนจากโครงการลมในเยอรมนี และส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ที่มีแนวโน้มเร่งขึ้นต่อเนื่อง q-q จากการรับรู้ต้นทุนคลื่นที่ลดลงเต็มไตรมาส ผสานกับการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้าใน US ที่มีการปรับค่าความพร้อมจ่ายเร่งขึ้น
– PTTEP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 127.00 บาท มุมมองเชิงบวกต่อระดับมูลค่าที่น่าสนใจ ซื้อขายที่ราว -1SD และให้ Dividend yield กว่า 7% หรือราว 8.5 บาท/หุ้น มีโอกาสรักษาปันผลใกล้ปี 67 ที่ 9.5 บาท/หุ้น จากฐานะการเงินแกร่งและกระแสเงินสดอิสระมั่นคง เชิงกลยุทธ์คาด Outperform ในไตรมาส 4/68 จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่มักปรับขึ้น 14-20% ภายใน 3-12 เดือนหลังเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย อีกทั้ง IEA,OPEC,EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 68-69 ขณะที่สต็อก middle distillate ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และฤดูหนาวหนุน GRM เพิ่มแรงหนุนราคาน้ำมัน PTTEP มีสัดส่วนยอดขายน้ำมันดิบราว 30% ได้ประโยชน์โดยตรง
– NER (เคจีไอ) เป้า Consensus 5.5 บาท ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 ฟื้น QoQ แนวโน้มราคายางพาราฟื้นตัว โดยเฉพาะจากเหตุน้ำท่วมภาคใต้ไทย+มาเลเซียทำให้อุปทานลดลง ขณะที่ NER เน้นยางพาราภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้รับอานิสงส์รายได้ส่วนเพิ่มจากการรับบริหารจัดการผลผลิตยางพารากับการยางแห่งประเทศไทย (รับจ้างผลิตยาง) + ทำให้ราคายางปรับขึ้นแบบมีเสถียรภาพ Valuation ถูก Forward PE 4.2 เท่า Consensus คาดปันผลเหลือของ 2H68 ราว 0.328 บาท/หุ้น (Yield 7.7%)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 68)





