นายกฯ สิงคโปร์ชื่นชมไทย-มาเลเซีย ช่วยเหลือพลเมืองจากวิกฤติน้ำท่วมหาดใหญ่

ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ (ภาพ: Thaigov.go.th)

ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (2 ธ.ค.) ว่า ความช่วยเหลือที่รวดเร็วจากทางการไทยและมาเลเซียในการช่วยเหลือชาวสิงคโปร์ที่ติดค้างอยู่ในหาดใหญ่จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้สิงคโปร์มั่นใจว่า พลเมืองของสิงคโปร์จะสามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

หว่องระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า สิงคโปร์รู้สึก “ซาบซึ้งอย่างยิ่ง” ต่อทางการของทั้งสองประเทศ พร้อมให้คำมั่นว่า “ในยามจำเป็น สิงคโปร์ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเท่าที่จะสามารถทำได้เช่นกัน”

ทั้งนี้ ชาวสิงคโปร์กว่า 800 คนได้เดินทางกลับจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในภาคใต้ของไทยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักที่สุด โดยมีชาวบ้านบางส่วนต้องประสบกับภาวะขาดแคลนไฟฟ้า อาหารและน้ำเป็นเวลาหลายวัน

หว่องกล่าวเพิ่มเติมว่า เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อข่าวน้ำท่วมครั้งรุนแรงครั้งนี้ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 900 รายในภูมิภาคจากฝนที่ตกหนัก และอีก 350 รายเสียชีวิตในศรีลังกา

“ถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกท่าน และถึงเจ้าหน้าที่ผู้กล้าหาญทุกคนที่กำลังต่อสู้กับกระแสน้ำเพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้อื่น เราขอส่งความระลึกถึงและคำอธิษฐานไปถึงท่าน” หว่องกล่าว

น้ำท่วมในครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่ออินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมและดินถล่มในอินโดนีเซียมีมากกว่า 600 ราย ขณะที่ประชาชนราว 8,500 ชีวิตในมาเลเซีย ยังคงต้องพักอาศัยอยู่ในศูนย์บรรเทาทุกข์ชั่วคราว ณ วันที่ 2 ธ.ค.

สภากาชาดสิงคโปร์ระบุเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) ว่า หน่วยงานได้จัดสรรเงิน 250,000 ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนองค์กรพันธมิตรในภูมิภาค 5 แห่งในไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และศรีลังกา ซึ่งชุมชนของตนได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนเมื่อไม่นานมานี้

หว่องกล่าวว่า เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเปราะบางร่วมกันของประเทศต่าง ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

หว่องระบุว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ไม่จำกัดพรมแดนและส่งผลกระทบต่อเราทุกคน เราต้องทำงานร่วมกันกับทุกประเทศ เพื่อเร่งความพยายามร่วมกันของเราและสร้างอนาคตที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับโลกของเรา”

ทั้งนี้ ฤดูมรสุมประจำปีมักจะนำมาซึ่งฝนตกหนัก ก่อให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมรุนแรง ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ภาวะโลกร้อนยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม เนื่องจากอัตราการระเหยที่สูงขึ้นกระตุ้นให้เกิดพายุที่รุนแรงขึ้นจนทำให้มีปริมาณน้ำฝนมากขึ้น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 68)