
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบหลักการมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ โดยมอบหมายกระทรวงวัฒนธรรม กำหนดหลักเกณฑ์ สิทธิประโยชน์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินงานตามกรอบที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ พร้อมหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตามที่ กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
โดยมาตรการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการผลิต ยกระดับมาตรฐาน คุณภาพ และความหลากหลายของภาพยนตร์ไทย ส่งเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และเพื่อส่งเสริมการส่งออกทุนทางวัฒนธรรมผ่านสื่อบันเทิงอย่างภาพยนตร์ไทย ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้สิทธิประโยชน์หลัก โดยให้ได้รับเงินสนับสนุน 15% ของค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อเรื่องที่มีวงเงินตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป
2. ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น
– กรณีภาพยนตร์มีการนำเสนอเรื่องราว หรือเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ในประเด็นตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการฯ กำหนด สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 5%
– กรณีภาพยนตร์มีค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อเรื่อง ตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 50 ล้านบาท สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 2.5%
– กรณีภาพยนตร์มีค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อเรื่อง ตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 5%
– กรณีภาพยนตร์ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศ หรือฉายในช่องโทรทัศน์ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ หรือฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 1 แพลตฟอร์ม โดยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ต้องมีการฉายในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ โดยอย่างน้อย 1 ประเทศ ต้องอยู่นอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 5%
3. เงื่อนไขของมาตรการ เช่น ค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาคำนวณเงินสนับสนุนได้ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายก่อนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการผลิต และค่าใช้จ่ายหลังการผลิต โดยไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ และการทำการตลาด และภาพยนตร์ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ได้ ประกอบด้วย ภาพยนตร์ไทย ละคร และซีรีส์ไทย และมิวสิกวิดีโอไทย
ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการเพื่อรักษาระดับการลงทุน และกระตุ้นให้เกิดการผลิตในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และสาระบันเทิงรูปแบบอื่น (Content) ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านการจ้างงาน ซึ่งการให้เงินสนับสนุนตามมาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้การผลิตภาพยนตร์ไทยมีคุณภาพสูงขึ้น สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น
ประกอบกับคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.68 มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการดังกล่าวแล้ว จึงเห็นสมควรที่ ครม.จะพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากมาตรการดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่รัฐจะต้องจ่ายเงินคืนผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระงบประมาณของภาครัฐ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นสมควรที่กระทรวงวัฒนธรรม จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศไทย และศึกษาวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างรอบคอบ
ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์ สิทธิประโยชน์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินงานที่ชัดเจน เหมาะสม และโปร่งใส ให้ครอบคลุมทางด้านการลงทุน การจ้างงาน ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งสามารถวัดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และไม่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้โดยไม่จำเป็น สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถแสดงให้เห็นถึงที่มาของการคำนวณอัตราการคืนเงินที่เหมาะสม และพิจารณาแล้วเห็นว่าการจ่ายเงินคืนตามมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมีความคุ้มค่า และคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญแล้ว ก็เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนการปฎิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็น และสอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามขั้นตอนต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ธ.ค. 68)





