
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (11 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในวันข้างหน้า
- ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 88.30 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ปิดที่ 4,313.00 ดอลลาร์/ออนซ์
เฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธ (10 ธ.ค.) ตามคาด ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 3 ขณะเดียวกันเฟดประกาศจับตาภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ โดยระบุว่าเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นเล็กน้อย
ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2569 และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2570 ซึ่งสอดคล้องกับการส่งสัญญาณในการประชุมเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์จากบริษัท Marex กล่าวว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังไม่ได้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด ดังนั้น การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสภาพแวดล้อมที่เงินเฟ้อที่ค่อนข้างสูงเช่นนี้ ย่อมเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ เขากล่าวว่าการพุ่งขึ้นของราคาโลหะเงินยังเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำเช่นกัน
ผลการประชุมเฟดส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.45% แตะที่ 98.346
เจอโรม พาวเวล จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค. 2569 ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติประจำทำเนียบขาว และเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้รับเลือกให้เป็นประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งอาจมีผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 เนื่องจากแฮสเซตต์มีจุดยืนสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 68)





