
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่หาดบอนได (Bondi Beach) ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย เพิ่มขึ้นเป็น 16 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นสองพ่อลูก โดยผู้เป็นพ่ออายุ 50 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชายวัย 24 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชุมชนชาวยิวได้มารวมตัวกันที่หาดบอนไดเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ (Hanukkah) ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงสิ้นปีของชาวยิว คล้ายเทศกาลคริสต์มาสของผู้นับถือศาสนาคริสต์
เจ้าหน้าที่ตำรวจนครซิดนีย์แถลงข่าวในช่วงเช้าวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า พ่อวัย 50 ปีและลูกชายวัย 24 ปีเป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงในครั้งนี้ โดยผู้เป็นพ่อถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าโจมตีชาวยิวอย่างเจาะจง และนับเป็นการโจมตีด้วยอาวุธปืนที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปีของออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มีผู้เข้าร่วมงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์ประมาณ 1,000 คนในช่วงเวลาดังกล่าว และมีผู้บาดเจ็บ 40 คนที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุการณ์โจมตี ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายที่อยู่ในอาการสาหัส พร้อมระบุว่า ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุกราดยิงครั้งนี้มีอายุระหว่าง 10 – 87 ปี
นับจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่ามีผู้ก่อเหตุเพียง 2 คนเท่านั้น ขณะที่การสืบสวนยังคงดำเนินอยู่ และมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการในชุมชนชาวยิว
พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เหตุกราดยิงที่หาดบอนไดซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น กินเวลานานประมาณ 10 นาที ซึ่งทำให้ผู้คนหลายร้อยคนต้องวิ่งหนีไปตามชายหาดและหลบเข้าไปในสวนสาธารณะใกล้เคียง
สำหรับชุมชนชาวยิวพลัดถิ่นในออสเตรเลียนั้น เดิมทีเป็นชุมชนขนาดเล็ก แต่ฝังรากลึกจนกลายเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยรายงานระบุว่ามีผู้คนประมาณ 150,000 คนที่ระบุว่าตนเองเป็นชาวยิวที่เข้ามาตั้งรกรากในออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าประมาณ 1 ใน 3 ของจำนวนนี้อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองทางตะวันออกของซิดนีย์ รวมถึงย่านบอนได
รายงานระบุว่า เมืองใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงเบอร์ลิน ลอนดอน และนิวยอร์ก ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรอบงานฉลองเทศกาลฮานุกกะห์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุกราดยิงที่หาดบอนได
ด้านนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ผู้นำออสเตรเลียได้รุดไปยังที่เกิดเหตุในช่วงเช้าวันนี้ และกล่าวว่าเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับออสเตรเลีย พร้อมกับกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานด้านความมั่นคงกำลังตรวจสอบแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงในครั้งนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 68)





