
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) โดยราคาทองคำลดช่วงบวกหลังจากพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,360 ดอลลาร์ในระหว่างวัน เนื่องจากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนได้ทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 4,335.20 ดอลลาร์/ออนซ์
การเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มคืบหน้า โดยล่าสุดประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประกาศว่า ยูเครนพร้อมละทิ้งความหวังในการเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) หากสามารถแลกกับการได้รับหลักประกันด้านความมั่นคงภายใต้ข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามกับรัสเซียที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปี โดยการประกาศของเซเลนสกีมีขึ้นในระหว่างการเจรจาเป็นเวลานาน 5 ชั่วโมงกับคณะผู้แทนของสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลินเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ด้านสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเข้าร่วมการเจรจากับผู้นำยูเครนในครั้งนี้ กล่าวว่า การเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก
นักวิเคราะห์จาก Kitco Metals กล่าวว่า ความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไร
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.และพ.ย. ในวันนี้ (16 ธ.ค.) และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 78% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนม.ค.ปีหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 68)





