เงินบาทเปิด 31.52 อ่อนค่าเล็กน้อยสอดคล้องภูมิภาค ตลาดรอตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.52 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาด เย็นวานนี้ที่ระดับ 31.43 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน โดยเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวตามทิศทางทางราคาทอง ในตลาดโลก

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้ตลาดรอติดตาม ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐฯ

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 154.99 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1748 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1740 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 31.491 บาท/ดอลลาร์
  • “ทรัมป์” ขู่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าและยกเลิกข้อตกลงทางการค้าไทยและกัมพูชา หากทั้ง 2 ประเทศไม่ยุติสงครามทันที ด้าน “ฝรั่งเศส” หนุน “อันวาร์” ขอร้องไทยหยุดยิง ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน หวังไทย-กัมพูชายับยั้งชั่งใจและดำเนินมาตรการ ทุกที่เอื้อต่อการบรรลุการหยุดยิง เพื่อคลี่คลายความตึงเครียด
  • “ศุภจี” ยัน “ทรัมป์” ไม่ได้เอาเรื่องขึ้นภาษีตอบโต้มาต่อรองหยุดยิง ในช่วงต่อสายคุย นายกฯ อนุทินเปล่าประโยชน์ที่จะ โต้กลับ แต่ “ทรัมป์” ถามความคืบหน้าเจรจาภาษีและจะเร่งให้ยูเอสทีอาร์ เดินหน้าคุยกับไทยต่อ ลั่นจนถึงวันนี้ ยูเอสทีอาร์ยังไม่ติดต่อมา
  • “กสิกรไทย-กรุงไทย” ชี้เงินบาทแข็งค่ารอบ 4 ปีครึ่ง จากดอลลาร์อ่อนค่า ชี้เศรษฐกิจไทยรับไม่ได้ พึ่งส่งออกสูง ทองคำ จ่อทำนิวไฮต่อ ชี้ ธปท.แทรกแซงได้จำกัด “ด้านแม่ทองสุก” ชี้ทองคำทำให้เงินบาทแข็งค่า เพียง 7-8% ธปท.สั่งแบงก์เข้มตรวจธุรกรรม ซื้อขายเงินตราต่างประเทศของผู้ค้าทองเข้ม เตรียมหารือร้านทอง 22 ธ.ค.นี้
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (15 ธ. ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพื่อ ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ 
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (15 ธ.ค.) โดยราคาทองคำลดช่วงบวกหลังจากพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,360 ดอลลาร์ในระหว่างวัน เนื่องจากความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนได้ทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือ ครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนรายสัปดาห์จาก ADP, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนต.ค.และเดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย. รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่าย จัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนธ.ค.จาก S&P Global
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยกระทรวงแรง งานสหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.และพ.ย. ในวันนี้ และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนพ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ธ.ค.เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) 
  • นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ใน สัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางทั้ง 3 แห่งจะมีการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในการประชุมรอบนี้ โดยคาดกันว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.15% ขณะที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย สู่ระดับ 3.75% หลังเงินเฟ้อชะลอ ตัว ส่วน BOJ จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.50% หลัง BOJ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ปรับ ตัวขึ้นสู่ระดับ 15 ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 14 ในไตรมาส 3

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 68)