
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ และประเมินความเสี่ยงด้านอุปทานที่เกิดจากการปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 56.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 59.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมดที่ถูกคว่ำบาตร ไม่ให้ให้เดินทางเข้าและออกจากเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรการกดดันประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา โดยคำสั่งปิดล้อมของปธน.ทรัมป์ มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรลำหนึ่งนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สื่อรายงานว่า สหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซียครั้งใหม่ หากรัสเซียไม่เห็นชอบต่อข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปธน.ทรัมป์ยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการคว่ำบาตรรัสเซีย
นักวิเคราะห์จากบริษัท BOK Financial กล่าวว่า นักลงทุนกำลังประเมินเสี่ยงด้านอุปทาน โดยหากมาตรการปิดล้อมการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลายังคงดำเนินต่อไป ก็มีแนวโน้มจะทำให้การผลิตน้ำมันในเวเนซุเอลาต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากไม่สามารถส่งออกได้ และหากไม่มีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน การโจมตีรัสเซียอาจทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัวอย่างรวดเร็ว
ด้านนักวิเคราะห์จาก ING กล่าวว่า การปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันเวเนซุเอลาอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาในปริมาณ 600,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่ส่งไปยังจีน แต่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในปริมาณ 160,000 บาร์เรลต่อวัน มีแนวโน้มว่าจะยังคงดำเนินต่อไปได้
ทั้งนี้ เวเนซุเอลาเป็นประเทศผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และมีแหล่งน้ำมันดิบสำรองที่พิสูจน์แล้วมากที่สุดในโลก ขณะที่ข้อมูลจากบริษัท Kpler ระบุว่า เวเนซุเอลาส่งออกน้ำมันราว 749,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ โดยครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าวถูกส่งออกไปยังจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 68)





