YLG ปรับเป้าทองปี 69 สู่ 4,900 ดอลลาร์ ทองไทยมีลุ้นแตะ 72,150 บาท

YLG เปิดสถิติทองคำปี 68 เป็นปีแห่งความประทับใจที่สุดของนักลงทุนทองคำ ตลอดทั้งปีราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 70% พุ่งทะลุ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำ New High ไปกว่า 50 ครั้ง เปิด 4 ปัจจัยขับเคลื่อนทองคำยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ไปสู่ปีหน้า ให้เป้าหมายทองคำปีหน้าที่ 4,721-4,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 69,500-72,150 บาทต่อบาททองคำ

 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าปี 68 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดีที่สุดในการลงทุนทองคำ หากนักลงทุนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของทองคำอย่างใกล้ชิดจะสามารถหาจังหวะทำกำไรได้อย่างมหาศาล แม้ว่าเทรนด์ทั้งปีที่ผ่านมาทองคำจะเป็นขาขึ้นแต่ก็มีจังหวะย่อต่อเพื่อให้ใช้เป็นจุดเข้าซื้ออยู่หลายครั้ง

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากข้อมูลพบว่าต้นปี 68 ที่ผ่านมาราคาทองคำแท่งในตลาดโลกเปิดที่ 2,632 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศเปิดตลาดเมื่อต้นปีที่ 42,650 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นราคาทองคำสร้างปรากฏการณ์ทำลายสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) อย่างต่อเนื่อง จนสร้างความกังวลให้นักลงทุนว่าราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปอยู่ระดับสูงเกินไปแล้ว แต่หลังจากนั้นราคาก็ยังเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ต่อไปอีกหลายครั้ง

โดยมีการเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญ ๆ ในช่วงปี 68 ดังนี้

  • เดือนม.ค. 68 ราคาทองคำแท่งในตลาดโลกเปิดที่ 2,632 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศเปิดตลาดเมื่อต้นปีที่ 42,650 บาทต่อบาททองคำ
  • เดือนเม.ย. 68 ราคาทองคำพุ่งทะลุ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองคำในประเทศทะลุ 50,000 บาททำ บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำทำ New High ไปแล้ว 19 ครั้งในช่วง 4 เดือนแรก
  • เดือนต.ค. 68 ราคาทะลุ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือไปอยู่ประมาณ 61,000 บาทต่อบาททองคำ ทำ New High สะสมรวมกว่า 40 ครั้งใน 10 เดือน
  • เดือนธ.ค. 68 (ณ วันที่ 26 ธ.ค.) ราคาทองคำยังพุ่งแรงส่งท้ายปีไปแตะที่ 4,531 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็นประมาณ 66,200 บาทต่อบาททองคำ รวมทั้งปีทำ New High สะสมรวมกว่า 50 ครั้งในปีเดียว มากกว่าปี 67 ที่ทั้งปีทำ New High เกือบ 40 ครั้ง

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี แบบที่เรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ มาจากปัจจัยหลักสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่

  1. ประเด็นดอกเบี้ยขาลงที่มีความชัดเจนจากภาวะเศรษฐกิจที่น่าเป็นห่วง
  2. การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อลดความเสี่ยงหลายด้านทั้งด้านความมั่นคงและรองรับ “De-dollarization” (การลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์)
  3. การโยกเงินจากตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนต่ำมาสู่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
  4. การเก็บเงินไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์

ทั้งนี้ จากปัจจัยทั้งหมดที่เป็นตัวผลักดันให้ทองคำทะยานสู่เป้าหมายใหม่อย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมานี้ จะยังขับเคลื่อนให้ทองคำในปี 69 พุ่งสู่เป้าหมายใหม่ที่ต้องจับตามองอีกหนึ่งปี โดยในปี 69 YLG ให้ราคาเป้าหมายทองคำไว้ที่ 4,721-4,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 69,500-72,150 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณจากค่าเงินบาท 31.06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ธ.ค. 68)