ตลาดหุ้นยุโรปปิดนิวไฮ กลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (29 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของดัชนีเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากหุ้นกลุ่มกลาโหมและกลุ่มการเงินปรับตัวลง

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 589.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.09%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,112.02 จุด เพิ่มขึ้น 8.44 จุด หรือ +0.10%
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,351.12 จุด เพิ่มขึ้น 11.06 จุด หรือ +0.05% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,866.53 จุด ลดลง 4.15 จุด หรือ -0.04%

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวขึ้น แต่หุ้นกลุ่มกลาโหมและอากาศยานร่วงลงเกือบ 1% หลังนักลงทุนประเมินสัญญาณล่าสุดจากการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า เขาและประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน มีความคืบหน้าเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงมากขึ้น อย่างไรก็ดี ประเด็นพรมแดนที่ยังไม่ได้ข้อยุติยังคงสร้างความกังวลในตลาด ส่งผลให้หุ้น Leonardo ร่วงลง 2% และฉุดหุ้น Rheinmetall และ Hensoldt ลดลงราว 1%

นักลงทุนยังคงระมัดระวัง หลังรัสเซียระบุว่า ยูเครนพยายามโจมตีพื้นที่ใกล้ที่พักของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในแคว้นนอฟโกรอด โดยรัสเซียระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้รัสเซียต้องทบทวนท่าทีในการเจรจา

แรงขายในหุ้นกลุ่มการเงินเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด แม้ว่ากลุ่มดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทำผลงานโดดเด่นที่สุดในปี 2568 โดยปรับตัวขึ้นราว 65% จากแรงหนุนของกิจกรรมควบรวมและซื้อกิจการที่เพิ่มขึ้น สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ผ่อนคลายลง และภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ

เมื่อเข้าใกล้ช่วงสิ้นปี ดัชนี STOXX 600 มีแนวโน้มทำผลงานรายปีแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564 โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในทิศทางขาลง ความมุ่งมั่นด้านการใช้จ่ายทางการคลังของเยอรมนี และการที่นักลงทุนกระจายการลงทุนออกจากหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูง

นักวิเคราะห์ระบุว่า ปี 2568 เป็นปีที่ตลาดหุ้นมีความแตกต่างชัดเจนระหว่างช่วงต้นปีและปลายปี แม้ภาพรวมตลาดจะยังคงแข็งแกร่ง แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2569 ความตึงเครียดทั่วโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจที่หลากหลายอาจทำให้ราคาหุ้นผันผวนมากขึ้น

ความสนใจของนักลงทุนในสัปดาห์นี้ที่มีวันซื้อขายน้อยลงเนื่องจากช่วงวันหยุด จะอยู่ที่การเผยแพร่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันอังคารนี้ หลังจากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อต้นเดือนนี้ และส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยเพียงอีก 1 ครั้งในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์อย่างน้อย 2 ครั้ง และมองว่าประธานเฟดคนถัดไปอาจมีท่าทีผ่อนคลายด้านนโยบายมากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 68)