ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า หลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 8 ปีครึ่ง

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.31% สู่ระดับ 91.8532 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.07 เยน จากระดับ 109.41 เยน อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9207 ฟรังก์ จากระดับ 0.9228 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2534 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2562 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1946 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1905 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3751 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3744 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7642 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7616 ดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

ดัชนี CPI เดือนมี.ค.ปรับตัวในอัตราที่รวดเร็วขึ้น หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นถึง 9.1%

ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 1.7% และเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงของปี 2561

ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน และ 2.5% เมื่อเทียบรายปี

หากไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งมากที่สุดในรอบ 7 เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนมี.ค.