ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.35 อ่อนค่าตามตลาดโลกหลังดอลล์แข็ง จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.35 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก
เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.27/31 บาท/ดอลลาร์
          เงินบาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวเพิ่ม
ขึ้น อย่างไรก็ดี ระหว่างวันต้องติดตามความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ หลังจากที่ช่วงนี้ราคาทองเริ่มปรับตัวลดลง
          "เงินบาทเช้านี้ อ่อนค่าตามตลาดโลก เพราะดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า หลังจาก Bond Yield สหรัฐเพิ่มขึ้น" นักบริหาร
เงินระบุ
          ขณะที่ต้องติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการ
รักษาเสถียรภาพในตลาดพันธบัตรอย่างไร
          นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทมีโอกาสผันผวน มองกรอบไว้ที่ 30.25 - 30.45 บาท/ดอลลาร์
          THAI BAHT FIX 3M (3 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.31191% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.33966% 

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 106.78 เยน/ดอลลาร์
          - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2057 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.2850 ดอลลาร์/ยูโร
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.297 บาท/ดอลลาร์
          - "คลัง" ถก ธปท.รื้อเกณฑ์การใช้เงินตาม พ.ร.ก.ซอฟต์โลนเปิดโอกาสให้รายใหญ่เข้าถึงเงินกู้ด้วยและเปิดโครงการ
โกดังพักหนี้ส่วนกลุ่มไร้สมาร์ทโฟน 5 แสนราย รอรับเงินวันที่ 5 มี.ค.นี้ ส่วนที่เหลือทยอยตรวจสอบคุณสมบัติและโอนเงินในสัปดาห์ถัดไป
          - "คลัง" รับปีงบประมาณ 2564 รีดรายได้วืดเป้าหมาย ทำปิดหีบไม่ลง ชงรัฐบาลกู้เงินเพิ่มอีก 1.2 แสนล้านบาท
          - กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวทางการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 
หลังจากนี้มีแผนที่จะดำเนินการหลากหลายรูปแบบโดยหนึ่งในวิธีมีโอกาสที่จะตัดขายเอ็นพีแอล แต่การตัดขายหนี้ออกไปต้องขึ้นอยู่กับราคาที่ได้
กลับมาด้วย เพราะแนวโน้มเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้นสูงนั้นเกิดจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ให้เสื่อมค่าลงเช่นกัน โดย
ธนาคารกรุงไทยยืนยันยังคงเดินหน้าดูแลลูกหนี้และเอ็นพีแอลอย่างต่อเนื่อง
          - บีโอไอเผยลงทุนอุตฯบีซีจีปี'63 มาแรง คำขอรับส่งเสริมเฉียด 1.15 แสนล้าน ปีนี้มุ่งส่งเสริมกิจการที่ไทยมีศักยภาพ อุตฯ
การแพทย์-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-อุตฯกลุ่มเศรษฐกิจชีวภาพหมุนเวียน และสีเขียว
          - "นายกฯ" แย้มกำลังพิจารณาผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 ช่วงสงกรานต์ ชี้ขึ้นอยู่สถานการณ์แพร่ระบาด บอกการ
ตัดสินใจไม่ง่ายเพราะต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ
          - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. 
จากระดับ 58.7 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 58.7 โดยดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับผล
กระทบจากการร่วงลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ท่ามกลางการเกิดพายุฤดูหนาวในสหรัฐ
          - ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้น
สุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.8 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2557 จากระดับ 58.3 ในเดือนม.ค.
          - ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น
เพียง 117,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง
          - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ
          - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) โดย
ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ
รัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
          - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำ
ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
          - นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติให้ความ
เห็นชอบต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ
วุฒิสภา ก่อนที่จะส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามรับรองเป็นกฎหมาย
          - นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ด้านนัก
วิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 210,000 ตำแหน่ง
          - ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค. หลังจากที่นายเจอโรม พา
วเวล ประธานเฟด กล่าวในแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่
ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกกว่า 3 ปี