KUN เตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ 3.6 พันลบ.รับอุปสงค์ลูกค้าสวนทางวิกฤติโควิด

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ในปี 64 มูลค่าโครงการราว 3,560 ล้านบาท เพื่อตอบรับกับดีมานด์ของลูกค้าที่สูงขึ้นท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 พร้อมวางเป้าสร้างยอดขาย 1,500 ล้านบาท

ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 800 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากโครงการหลักใน จ.นนทบุรี 84% จ.ฉะเชิงเทราที่ 16% จากปี 63 อยู่ที่ 86% และ 14% ตามลำดับ พร้อมเตรียมศึกษาโครงการใหม่ทางทิศใต้

นางประวีรัตน์ กล่าวถึงภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปี 64 มองว่าไลฟ์สไตล์ลูกค้าเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ตอนนี้สินค้าที่ตอบโจทย์ในช่วงโควิด-19 คือบ้านจัดสรร เห็นได้จากผลประกอบการปี 63 ตอบรับดีมานด์เพิ่มขึ้น

แต่ในส่วนของคอนโดมิเนียม มองว่าไลฟ์สไตล์ของคนซื้อคอนโดแตกต่างกัน ซึ่ง KUN ยังคงมุ่งสร้างการเติบโตต่อเนื่องในบ้านแนวราบในช่วง 2-3 ปีนี้ เพราะถึงแม้ตอนนี้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างบ้าน แต่ก็ยังไม่ทันดีมานด์ของลูกค้า ขณะที่บริษัทยังคงตั้งเป้าเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์รอบ 4 ทิศของกรุงเทพฯ ทั้งทิศเหนือ ตะวันตก ตะวันออก และอยู่ระหว่างศึกษาการเปิดโครงการใหม่ทางทิศใต้

สำหรับผลประกอบการปี 63 รายได้ทะลุเป้ามาที่ 800 ล้านบาท กำไรสุทธิ 84.6 ล้านบาท หลังจากสามารถปิดการขายโครงการและการส่งมอบไปแล้ว 4 โครงการย่านบางบัวทอง คือ "Kunalai Symphony" "Kunalai Pollen" "Kunalai Begins" และ "Kunalai Joy" (เป็นสินค้ายอดนิยมบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวที่เน้นพื้นที่ใช้สอย)

ส่วนปีนี้ยังมีโครงการที่ดำเนินการขายและพัฒนาอยู่ 4 โครงการ คือ 1."Kunalai Preem" เนื่องจาก "Kunalai Joy" ขายหมดเร็วจึงจะเปิดโครงการนี้มาทดแทน มีขนาด 411 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1500 ล้านบาท 2."Kunalai Begins 2" ทดแทน "Kunalai Begins" ที่ขายหมดแล้ว มีขนาด 363 ยูนิต มูลค่าโครงการ 849 ล้านบาท 3."Kunalai Courtyard" อาคารพาณิชย์เฟส 2 มีขนาด 32 ยูนิต มูลค่าโครงการ 127 ล้านบาท และ 4."Kunalai Joy on 314" ที่ฉะเชิงเทรามีขนาด 132 ยูนิต มีมูลค่าโครงการ 485 ล้านบาท

นายสุรเดช ประจวบศรีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี การเงิน และงบประมาณ KUN กล่าวว่า รายได้ในปี 63 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 803 ล้านบาท เกิดจากการที่ช่วงล็อกดาวน์ลูกค้าเริ่มมองหาบ้านที่มีพื้นที่ที่กว้างมากขึ้น มีการทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้ยอดขาย (Presale) เติบโตตามยอดผู้เยี่ยมชม ซึ่งสูงกว่าตั้งเป้าไว้ 108% มาที่ 1,410 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (backlog) 333 ล้านบาท จากสิ้นปี 62 อยู่ที่ 128 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มีโครงการอยู่ใน Pipeline มูลค่ารวมกว่า 2,318 ล้านบาทรองรับรายได้ยาวถึง 2 ปี และจะมีสินค้าใหม่ที่จะออกมาอีกในปี 65-66

"เรารับรู้รายได้จากการขาย 799 ล้านบาทซึ่งเป็นรายได้ที่มากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ทางบริษัทเน้นเรื่อง Lean Organization จะเห็นได้จากภาพย้อนหลัง 3 ปีพนักงานยังอยู่เท่าเดิมที่ 50 กว่าคน ไม่มีการเลย์ออฟ เน้นให้ความสำคัญให้พนักงานทำงานเป็นระบบโดยใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ทางบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี"นายสุรเดช กล่าว

นางประวีรัตน์ ได้กล่าวถึงผลของ SG&A ว่าลดลงจากปีที่แล้ว 2% จะเห็นได้จากกำไรสุทธิปี 63 เติบโตเกือบ 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้เติบโต 23.12% โดยกำไรสุทธิเติบโตกว่ารายได้จากผลของการควบคุมค่าใช้จ่ายบริหาร และการตลาด