ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐลดลง

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (20 ต.ค.) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง และนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปีหน้า

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.08% แตะที่ระดับ 106.1649

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร, ปอนด์, ฟรังก์สวิสและดอลลาร์แคนาดา ขณะที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนและโครนาสวีเดน

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8918 ฟรังก์สวิสในวันศุกร์ (30 ต.ค.) จาก 0.8933 ฟรังก์สวิสในวันพฤหัสบดี (19 ต.ค.) และอ่อนค่าลงแตะ 1.3701 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3715 ดอลลาร์แคนาดา

แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 149.8590 เยนในวันศุกร์ จาก 149.8360 เยนในวันพฤหัสบดี และแข็งค่าแตะ 10.9724 โครนาสวีเดน จาก 10.9557 โครนาสวีเดน

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0592 ดอลลาร์ในวันศุกร์ จากระดับ 1.0583 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2158 ดอลลาร์สหรัฐจากระดับ 1.2145 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 5% ในวันศุกร์ หลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น

ด้านนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เขาไม่คิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปีหน้า โดยเขาคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงปลายปี 2567

ขณะที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันศุกร์นั้น บรรดานักลงทุนได้มุ่งความสนใจไปที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย