ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (12 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.69% แตะที่ 101.4997
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.0995 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0908 ดอลลาร์สหรัฐ และปอนด์แข็งค่าแตะ 1.2488 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2418 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังนักลงทุนลดน้ำหนักคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดในวันพุธ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 72.9% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธ โดยดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% และชะลอตัวจากระดับ 0.4% ในเดือนก.พ.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.5% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนมี.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 0.5% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ ดอลลาร์ถูกกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณใกล้สิ้นสุดวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เฟดใกล้สิ้นสุดวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ขณะที่นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เฟดควรใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเกิดวิกฤตภาคธนาคาร