ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (31 ต.ค.) และในเดือนต.ค. โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ หุ้นบีพี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ร่วงลง หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,321.72 จุด ลดลง 5.67 จุด หรือ -0.07% และปรับตัวลง 3.8% ในเดือนต.ค.ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
หุ้นบีพีร่วงลง 4.6% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ต่ำกว่าคาด โดยได้รับผลกระทบจากการร่วงลงอย่างมากของราคาพลังงาน
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ร่วงลง 2.5% ขณะที่หุ้นเชลล์ ร่วงลง 1.5%
หุ้นกลุ่มโลหะอุตสาหกรรม ลดลง 1.3% ตามราคาโลหะพื้นฐานที่ลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ หลังจากจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่รายงานข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอ
แต่หุ้นกลุ่มการบินอวกาศและการป้องกันบวก 1.8% โดยหุ้นโรลส์ รอยซ์ พุ่งขึ้น 6.6% หลังบาร์เคลย์สปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ราคาสินค้าในร้านค้าเครือข่ายในอังกฤษเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบกว่า 1 ปีในเดือนต.ค.
หุ้นกลุ่มสร้างบ้านและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น 1% และ 1.63% ตามลำดับ
หุ้นโวดาโฟนร่วงลง 1.3% หลังประกาศขายธุรกิจในสเปนวงเงิน 5 พันล้านยูโร (5.30 พันล้านดอลลาร์) ให้กับบริษัทเซโกนา คอมมูนิเคชันส์
