(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งในกรอบแม้ขยายเพดานหนี้สหรัฐคืบแต่ Fund Flow ยังไหลออก

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐออกมาบ้าง โดยมีการเจรจาให้จำกัดวงเงินในการใช้จ่ายโครงการที่สภาคองเกรสจะอนุมัติเป็นรายปี (Discretionary Spending) ไม่ให้เกิน 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ความกังวลขยายเพดานหนี้คลี่คลายลงบ้าง

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่กดดัน Fund Flow ไหลออก จากความไม่แน่นอนของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้ายังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 3.8% และส่งผลต่อค่าเงินดอลลารสหรัฐแข็งค่าขึ้น ทำให้ทิศทางของต่างชาติอาจยังขายต่อได้

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,530 จุด


ประเด็นพิจารณาการลงทุน


- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,764.65 จุด ลดลง 35.27 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,151.28 จุด เพิ่มขึ้น 36.04 จุด หรือ +0.88% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,698.09 จุด พุ่งขึ้น 213.93 จุด หรือ +1.71%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,909.61 จุด เพิ่มขึ้น 108.48 จุด หรือ +0.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 33,198.88 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.07% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (26 พ.ค.) เนื่องในวันวิสาขบูชา

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 พ.ค.66) 1,536.51 จุด 1,535.42 จุด ลดลง 1.09 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 48,513.80 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,822.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 พ.ค.66

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (25 พ.ค.)ร่วงลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 3.38% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 พ.ค.) อยู่ที่ 4.24 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 34.74 แนวโน้มอ่อนค่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า

- ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย น่าจะยื้อกันไปอีกระยะ จนกว่าจะใกล้ถึงวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งได้ถึง 95% ซึ่งจะสามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จังหวะนี้ จึงมีเวลาในการต่อรองตำแหน่งสำคัญได้อย่างเต็มที่

- พาณิชย์ ถกทูตพาณิชย์-เอกชน เคาะแผนส่งออก 7 ภูมิภาค รวม 350 กิจกรรม ดันยอดตัวเลขส่งออกครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าทั้งปีพลิกกลับมาเป็นบวก 1-2% เอกชนห่วงค่าเงินบาทผันผวน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกระทบต้นทุนการผลิต มั่นใจมูลค่าส่งออกพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

- "ลูกหนี้รายย่อย" น่าห่วง เครดิตบูโร ชี้ "เจนวาย-เอ็กซ์" หนี้ค้างชำระพุ่งรวมกัน 5 แสนล้าน หวั่นลามเป็นหนี้เสีย ห่วงหนี้รถ-บ้านจ่อเสียพุ่ง 3.5 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่แบงก์รัฐ "ธปท." ชี้หนี้เสียบ้านขยับ เร่งแบงก์ ปรับโครงสร้างหนี้ ทำสัญญาลูกหนี้ใหม่ จากผลกระทบดอกเบี้ยขึ้น

- รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า สภาฯ ต้องการให้รัฐบาลใหม่ได้พิจารณาอย่างเป็นขั้นตอนและรอบคอบในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพราะหากขึ้นแบบกระชากไปสู่ระดับ 450 บาท/วันทันทีจะเกิดภาพที่ซ้ำรอยในอดีตของสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท/วันทั่วประเทศปี 2556 ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตในประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านครั้งใหญ่และการลงทุนใหม่ๆ ที่เน้นการใช้แรงงานจำนวนมากก็จะไม่เกิดขึ้นอีก


*หุ้นเด่นวันนี้

- ITC (กรงศรี) "ซื้อ" เป้า BB Consensus 28 บาท ได้ประโยชน์ค่าเงินบาทอ่อนค่า (ส่งออก90%) ด้านกำไรสุทธิคาดผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในไตรมาส 1/66 สะท้อนจากยอดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้น mom ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

- AUCT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.20 บาท กำไรไตรมาส 1/66 ที่ 96 ล้านบาท ทรงตัว QoQ แต่เติบโต +112%YoY ปัจจัยหนุนจากการขึ้นค่าธรรมเนียมการประมูลและปริมาณรถที่ปิดประมูลได้ โดยตั้งแต่หมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงโควิดตั้งแต่กลางปีก่อน ส่งผลให้มีปริมาณรถยึดมากขึ้น ระยะสั้นอาจเห็นการชะรอตัว QoQ ในช่วงไตรมาส 2/66 ตามฤดูกาลที่มีวันหยุดมาก แต่น่าจะกลับมาขยายตัวดีอีกครั้งใน H2/66 ตามทิศทางแนวโน้มของ NPL ในระบบ ตลาดคาดกำไรปี 66 ที่ 284 ล้านบาท +13%YoY และปี 67 ที่ 304 ล้านบาท +7%YoY