การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถิติจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 เมื่อวานนี้ (12 เม.ย.) มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถไฟ จำนวนทั้งสิ้น 88,193 คน เป็นผู้โดยสารขบวนรถปกติ 85,446 คน และขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารอีก 2,747 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 38,367 คน ขาออก 49,826 คน สำหรับเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ สายใต้ มีผู้โดยสารเดินทาง จำนวน 30,660 คน รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 24,236 คน สายเหนือ 16,530 คน สายตะวันออก 10,209 คน สายมหาชัย 5,330 คน และสายแม่กลอง 1,228 คน
ส่วนภาพรวมบรรยากาศของวันนี้ (13 เม.ย.) ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) รวมถึงสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ มีประชาชนเดินทางกลับบ้านช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 2567 บางตาหลังจากประชาชนเดินทางกลับบ้าน เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์และเดินทางท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 11 - 12 เม.ย. ที่ผ่านมาอย่างคึกคัก
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ กล่าวว่า การรถไฟฯ ยังให้ความสำคัญต่อการดูแลความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยตามระเบียบอย่างเคร่งครัด พร้อมกับร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น จัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ - รถยนต์ ที่มีความเสี่ยง หรือบริเวณที่เป็นชุมชนหนาแน่น เพื่อป้องกันเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 67 จนสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์
ขณะเดียวกันยังขอความร่วมมือแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน บริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัย อาทิ การให้หยุดรถห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ และหากเห็นป้ายสัญลักษณ์ ได้แก่ ป้ายหยุด ป้ายเตือนรูปกากบาท"ระวังรถไฟ" ป้ายทรงสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนสีอำพันมีเครื่องจักรไอน้ำและรั้วกั้น ให้ชะลอความเร็ว และดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟแล่นผ่านมา เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทาง
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยข้อมูลการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 ว่า มีประชาชนเดินทางในระหว่างวันที่ 9 -12 เมษายน 2567 รวม 510,738 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) รวมจำนวน 29,742 เที่ยว แบ่งเป็นการเดินทางกลับภูมิลำเนา (เที่ยวไป) จำนวน 278,939 คน ใช้รถโดยสาร จำนวน 15,619เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ (เที่ยวกลับ) มีประชาชนเดินทาง จำนวน 231,799 คน ใช้รถโดยสาร จำนวน 14,123 เที่ยว
ขณะที่การเดินทางเมื่อวานนี้ (12 เม.ย.) พบว่ามีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา (เที่ยวขาไป) จำนวน 92,494 คน ใช้รถโดยสาร จำนวน 4,632 เที่ยว ส่วนเที่ยวขากลับ มีประชาชนเดินทาง จำนวน 76,071 คน ใช้รถโดยสาร จำนวน 4,270 เที่ยว ซึ่งเป็นการเดินทางสูงที่สุด
ส่วนการเดินทางในวันนี้ (13 เม.ย.) จะเป็นการเดินทางในเส้นทางสายสั้น เช่น คลองลาน, สระบุรี, โคราช, ชลบุรี ซึ่งมีรถโดยสารให้บริการเพียงพอกับความต้องการของประชาชนอยู่แล้ว
ส่วนในการเดินทางเที่ยวกลับ คาดว่า ประชาชนจะเดินทางทยอยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 15 - 17 เม.ย. เฉลี่ยวันละ 66,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,000 เที่ยว จึงได้กำชับไปยังนายสถานีเดินรถทุกแห่งทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนให้ได้รับบริการที่ "สะดวก สบาย ปลอดภัย ไร้รอยต่อ"
ทั้งนี้ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ สามารถเลือกเดินทางลงจุดจอดที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเดินทางต่อด้วยรถไฟ, รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้าสายสีแดง หรือรถโดยสาร ขสมก. หรือจะเลือกเดินทางมาลงที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ซึ่งมีบริการจุดจอดรถแท็กซี่ และเชื่อมต่อการเดินทางกับ รถโดยสาร ขสมก. ได้เช่นกัน
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เผยว่า เมื่อวาน (12 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันที่สองของวันหยุดต่อเนื่องช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,103,344 คน-เที่ยว น้อยกว่าวันเดียวกันของปีผ่านมาจำนวน 14,995 คน-เที่ยว หรือลดลง 1.34% (วันที่ 12 เม.ย. 66 จำนวน 1,118,339 คน-เที่ยว) และน้อยกว่าประมาณการ 75,415 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการ 6.40% (ประมาณการ 1,178,759 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 88,193 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (รวมสายสีแดง) จำนวน 1,015,151 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลเชื่อมต่อสายสีแดงฟรี 11 คน)