(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้นรับ "ทรัมป์" เลื่อนเก็บภาษี-จีนออกมาตรการกระตุ้นศก.

นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีมีโอกาสแกว่งไซด์เวย์อัพ ระยะสั้นหากดัชนีผ่านบริเวณ 1,215 จุดได้ โมเมนตัมจะเป็นบวกมากขึ้น ประกอบกับ Sentiment ต่างประเทศ หลังสหรัฐประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์ แคนาดา เม็กซิโก ขณะที่การประชุมสองสภาจีน ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนตลาดหุ้นไทยฟื้น โดยให้กรอบแนวรับ 1,190 จุด แนวรับถัดไป 1,173 จุด และแนวต้าน 1,215 จุด แนวต้านถัดไป 1,235 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ลุ้นดัชนีแกว่งไซด์เวย์อัพ ระยะสั้นหากดัชนีผ่านที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน บริเวณ 1,215 จุด โมเมนตัมจะเป็นบวกมากขึ้น ประกอบกับ Sentiment การลงทุนโดยรวมยังเอื้ออยู่ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์ภายใต้ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดาออกไป 1 เดือน

ขณะที่การประชุมสองสภาของจีน แถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นไทยฟื้น อย่างไรก็ตามคาดวันนี้ดัชนีน่าจะไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงเท่าเมื่อวาน สำหรับปัจจัยในประเทศติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป

โดยให้กรอบแนวรับ 1,190 จุด แนวรับถัดไป 1,173 จุด และแนวต้าน 1,215 จุด แนวต้านถัดไป 1,235 จุด


*ประเด็นพิจารณาการลงทุน


- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,006.59 จุด เพิ่มขึ้น 485.60 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.63 จุด เพิ่มขึ้น 64.48 จุด หรือ +1.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,552.73 จุด เพิ่มขึ้น 267.57 จุด หรือ +1.46%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,654.95 จุด เพิ่มขึ้น 236.71 จุด หรือ +0.63% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,987.09 จุด เพิ่มขึ้น 392.88 จุด หรือ +1.66% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,353.57 จุด เพิ่มขึ้น 11.61 จุด หรือ +0.34

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 มี.ค.) 1,206.96 จุด เพิ่มขึ้น 29.32 จุด (+2.49%) มูลค่าซื้อขาย 50,778.04 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (5 มี.ค.) 1,410.82 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(5 มี.ค.) ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 2.86% ปิดที่ 66.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 มี.ค.) อยู่ที่ 4.45 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.61 แข็งค่าต่อเนื่องตามทิศทางภูมิภาค ให้กรอบวันนี้ 33.50-33.70

- ตลาดหุ้นไทยเด้งแรง! รับธีม China Play ล่าสุด "หลี่ เฉียง" นายกรัฐมนตรีจีน ประกาศลั่นกระตุ้นการบริโภคกลางเวทีประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ เตรียมพร้อมออกบอนด์ 1.3 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 6.24 ล้านล้านบาท ภายในปีนี้ "ธนาคารกลางจีน" ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตัวเลข PMI เดือน ก.พ. ขยับตัวเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว มั่นใจจีดีพีปีนี้เติบโต 5% แม้เจอเทรดวอร์ หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี-แพ็กเกจจิ้งพุ่งแรง นำโดย SCC-PTTGC-SCGP-IVL-BANPU จับตาหุ้นกลุ่มส่งออก-โลจิสติกส์ และยางพารา รับอานิสงส์เศรษฐกิจจีนฟื้น

- "คลัง" ปักธง เม.ย.68 ลุยชง ครม.เคาะยกเครื่องภาษีรถยนต์ PHEV ขึง 3 เกณฑ์พิจารณาเข้ม สั่งแยกอัตราชัดกับ HEV พร้อมทบทวนภาษีแบตเตอรี่ คาดเสนอ ครม.พิจารณาไม่เกิน Q2/68

- ที่ประชุม กกร.ห่วงนโยบายทรัมป์ทำต้นทุนธุรกิจพุ่ง ชี้ไทยมีโอกาสตกเป็น 1 เป้าหมายโดนภาษีจากสหรัฐฯจากตัวเลขการเกินดุลที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนะเร่งบูรณาการข้อมูลการค้าในทุกมิติระหว่างไทย-สหรัฐฯ กำหนดท่าทีร่วมกับภาคเอกชนในการรับมือ พร้อมคงเป้าหมายจีดีพีที่ 2.4-2.9% แม้ทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัวชัดขึ้น เชียร์แบงก์ชาติยังมีช่องลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้

- นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีแผนดูแลเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจีดีพีไตรมาสที่ 1 ของปี 68 คาดจะเติบโตได้ 3.4% สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ซึ่งมาจากแรงส่งการบริโภค การท่องเที่ยว แต่จะมีปัญหาในอุตสาหกรรม รถยนต์ ที่คนขอกู้ไม่ผ่าน ซึ่งรัฐบาลพยายามเข้าไปแก้ปัญหา โดยจะนำร่องให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. เข้าไปช่วยค้ำประกัน แก่ผู้ที่ต้องการซื้อรถกระบะ เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งกำลังดูรายละเอียดข้อกฎหมาย คาดจะเริ่มได้ก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้


*หุ้นเด่นวันนี้

-BA (กสิกรไทยป ราคาพืนฐาน 26.87 บาทเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BA จากผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ดีกว่าที่ตลาดคาดประมาณ 18% โดยพลิกกลับมาเป็นกำไรเป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2558 กำไรที่ดีกว่าคาดเมื่อเทียบกับปีก่อนมาจากการเติบโตของรายได้โดยเฉพาะในเส้นทางหลัก และการลดลงของราคา Jet fuel เครื่องบินในไตรมาส 4 ปี 2567 โดยรายได้เติบโตดีขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และค่าตั๋วโดยสารที่เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เราชื่นชอบ BA สำหรับความแข็งแกร่งของเส้นทางบินหลักที่คาดว่าจะมีการแข่งขันด้านราคาต่ำและยังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง โดย BA มีการทำhedging น้ำมันประมาณ 20% เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นเชิงบวก ประกอบกับในไตรมาส 1 ปี 2568จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวสำหรับสมุยซึ่งเป็นเส้นทางบินหลักของ BA

- NSL (ฟินันเซียไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 43 บาท ตั้งเป้ารายได้ปี 2568 โต 16-17% y-y โดย 1QTD ยังโตได้ตามแผน สินค้าใหม่ และลูกค้าใหม่ยังเข้ามามากขึ้น และจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญใน Food service และโรงงานชีส ที่เพิ่งเริ่ม Operate ไตรมาส 4/67 ขณะที่กลุ่มน้ำมะพร้าว/น้ำผลไม้ส่งออก จะถูกรวมรายได้เข้ามาเต็มปี สมมติฐานรายได้ปี 2568 ของเราคาดไว้ +14% และกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 600 ลบ. ถือว่า conservative และมี Upside ปัจจุบันราคาเทรด PER ต่ำเพียง 13.8 เท่า

- CPALL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75 บาท คาดแนวโน้มกำไรปีนี้ยังขยายตัวเด่น +12%y-y แรงหนุนจากภาคการบริโภคที่ฟื้นตัว ผสานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐฯ และปลดล็อกความกังวลการซื้อธุรกิจในญี่ปุ่น ขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยเทรด PE เพียง 17 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจค้าปลีกในช่วง 10 ปีในตลาดต่างประเทศที่ซื้อขายในระดับ PE 24 เท่า