ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดลบ 55.13 จุด เยนแข็งฉุดหุ้นยานยนต์-คาดการณ์กำไรไม่สดใส

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดลบในวันนี้ (14 พ.ค.) โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่เน้นส่งออกถูกเทขายอย่างหนัก หลังเงินเยนแข็งค่าขึ้น ประกอบกับแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่สู้ดีนักจากความไม่แน่นอนเรื่องกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,128.13 จุด ลดลง 55.13 จุด หรือ -0.14% จบสถิติการปรับขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน

หุ้นลบนำโดยกลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง กลุ่มเภสัชภัณฑ์ และกลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด

ในช่วงเปิดตลาด หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลต่อดัชนีค่อนข้างมาก ยังได้รับแรงซื้อเข้ามาบ้างตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในดัชนี Nasdaq ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้

แต่ไม่นานตลาดก็พลิกเข้าแดนลบ โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่อ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.) ฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor Co.) ออกมาคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิสำหรับปีธุรกิจปัจจุบันอาจลดลงถึง 70% จากปีก่อน ขณะที่นิสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor Co.) ยังไม่เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลกำไร

มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัท ซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ ให้ความเห็นว่า "เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าบางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ได้ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้ แต่หุ้นก็อาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้" หากการเจรจาเรื่องภาษีระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ มีความคืบหน้า

อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายตลาด ดัชนีเริ่มลดช่วงลบ หลังจากหุ้นของโซนี่ กรุ๊ป (Sony Group) ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังเปิดเผยผลประกอบการปี 2567 (สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2568) ออกมาดี