
ดอน ฟาร์เรล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี “อยากทำธุรกิจกับจีนมากขึ้น” พร้อมกับแสดงจุดยืนว่า ออสเตรเลียจะไม่ยอมทำตามแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน และจะตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
ฟาร์เรลให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Australian Financial Review (AFR) ว่า “เราไม่ได้อยากทำธุรกิจกับจีนน้อยลง แต่อยากทำธุรกิจกับจีนมากขึ้น เราจะตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์กับจีนโดยยึดผลประโยชน์ของชาติเราเป็นหลัก ไม่ใช่สิ่งที่อเมริกาต้องการหรือไม่ต้องการ”
ข้อมูลจากกรมกิจการต่างประเทศและการค้าระบุว่า มูลค่าการส่งออกของออสเตรเลียไปยังจีนอยู่ที่ 2.19 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปี 2566 ขณะที่มูลค่าการส่งออกของออสเตรเลียไปยังสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.35 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ฟาร์เรลเปิดเผยกับ AFR ว่า ออสเตรเลียได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอให้สหรัฐฯ ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลียในอัตรา 10% ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อเดือนเม.ย. แต่เน้นย้ำว่า “เราจะทำข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเท่านั้น เราต้องการข้อตกลงที่ดี และเราพร้อมที่จะอดทนรอ”
เขายังกล่าวอีกว่า ในเร็ว ๆ นี้ ออสเตรเลียจะสรุปข้อเสนอใหม่ต่อสหภาพยุโรป (EU) ในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี หลังจากที่การเจรจาหยุดชะงักไปในปี 2566 แต่รื้อฟื้นขึ้นอีกครั้งเพื่อรับมือกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 68)
Tags: จีน, ออสเตรเลีย