สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (13 - 16 พฤษภาคม 2568)
ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 359,693 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 89,923 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 31%
ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 51% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 184,642 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้
ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาล
ที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 133,607 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond)
มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 12,903 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29NA (อายุ 4.5 ปี) LB28DA (อายุ 3.6 ปี) และ LB284A (อายุ 2.9 ปี)
โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 22,696 ล้านบาท 14,942 ล้านบาท และ 10,649 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น QH285A (A-)
มูลค่าการซื้อขาย 1,988 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) รุ่น BDMS256A (AA+) มูลค่าการซื้อขาย 814 ล้านบาท และหุ้นกู้ของ
บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) รุ่น LH27OA (A) มูลค่าการซื้อขาย 606 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น 2-4 bps. ในตราสารระยะยาว โดยนักลงทุนเริ่มผ่อนคลายกังวลหลังสหรัฐฯ และจีนบรรลุข้อตกลง
ในการลดภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariffs) ซึ่งกันและกัน ประกอบกับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์
ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง
และนโยบายการเงินกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ประจำเดือนเม.ย.
ปรับตัวขึ้น 2.3%(YoY) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4%
สัปดาห์ที่ผ่านมา (13 - 16 พฤษภาคม 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 19,880 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิ
ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 9,648 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 9,170 ล้านบาท
และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 1,062 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี
(13 - 16 พ.ค. 68) (6 - 9 พ.ค. 68) (%) (1 ม.ค. - 16 พ.ค. 68)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 359,692.89 518,405.67 -30.62% 7,972,072.37
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 89,923.22 129,601.42 -30.62% 88,578.58
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 111.12 111.12 0.00%
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 108.44 108.52 -0.07%
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี
สัปดาห์นี้ (16 พ.ค. 68) 1.58 1.57 1.57 1.59 1.65 1.87 2.11 2.64
สัปดาห์ก่อนหน้า (9 พ.ค. 68) 1.58 1.57 1.57 1.56 1.61 1.85 2.11 2.64
เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 0 0 3 4 2 0 0
โดย วิภาดา ภัคพลชวัล