ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 450,089 ลบ.

          สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (19 - 23 พฤษภาคม 2568) 
ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 450,089 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 90,018 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า
ประมาณ 25% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 43% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 194,985 ล้านบาท 
เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือ
ค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 
208,876 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 18,481 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% 
และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

          สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB303A (อายุ 4.8 ปี) LB29NA (อายุ 4.5 ปี) 
และ LBA506A (อายุ 25.1 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 23,731 ล้านบาท 23,659 ล้านบาท และ 13,066 ล้านบาท ตามลำดับ

          ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 
รุ่น TRUE305A (A+) มูลค่าการซื้อขาย 801 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รุ่น HMPRO261A (AA-) 
มูลค่าการซื้อขาย 776 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) รุ่น GPSC34NA (AA+) 
มูลค่าการซื้อขาย 678 ล้านบาท

          อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ประมาณ 1 bps. ด้านปัจจัยในประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% สอดคล้องกับการคาดการณ์
ที่ 2.9-3.1% จากการที่ประเทศคู่ค้าเร่งนำเข้าสินค้าก่อนที่จะมีการปรับขึ้นภาษีจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ประกาศปรับลดประมาณการ GDP ปี 2568 
มาอยู่ที่ประมาณ 1.3-2.3% (ค่ากลางที่ 1.8%) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามการส่งออกสินค้าจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ 
และการชะลอตัวของเศรษฐกิจการค้าโลก ด้านปัจจัยต่างประเทศ นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา 
สนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากเฟดต้องรักษาสมดุลระหว่างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และความกังวลต่อการ
เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่มูดี้ส์ เรทติ้งส์ (Moody's Ratings) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐฯ จากระดับ Aaa 
ลงมาอยู่ที่ Aa1 เนื่องจากหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น 

          สัปดาห์ที่ผ่านมา (19 - 23 พฤษภาคม 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 16,491 ล้านบาท 
โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 5,664 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 
11,331 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 503 ล้านบาท

          หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
          ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565

ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย                                    สัปดาห์นี้          สัปดาห์ก่อนหน้า     เปลี่ยนแปลง             สะสมตั้งแต่ต้นปี
                                                      (19 - 23 พ.ค. 68)    (13 - 16 พ.ค. 68)           (%)   (1 ม.ค. - 23 พ.ค. 68)
มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท)              450,088.58           359,692.89        25.13%            8,422,160.96
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท)                                 90,017.72            89,923.22         0.11%               88,654.33
ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index)                      110.99               111.12        -0.12%                
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index)                    108.44               108.44         0.00%                

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --%
ช่วงอายุของตราสารหนี้                    1 เดือน     6 เดือน     1 ปี     3 ปี     5 ปี     10 ปี     15 ปี     30 ปี
สัปดาห์นี้ (23 พ.ค. 68)                    1.57       1.56    1.56     1.6    1.65     1.86     2.12     2.65
สัปดาห์ก่อนหน้า (16 พ.ค. 68)               1.58       1.57    1.57    1.59    1.65     1.87     2.11     2.64
เปลี่ยนแปลง (basis point)                  -1         -1      -1       1       0       -1        1        1