ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (27 พ.ค.) โดยหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนมีท่าทีเชิงบวกต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ชะลอการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,778.05 จุด เพิ่มขึ้น 60.08 จุด หรือ +0.69%
ในระหว่างวัน ดัชนี FTSE 100 แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2568 หลังจากตลาดหุ้นอังกฤษปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันหยุดธนาคาร
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การที่สหภาพยุโรปจัดการประชุมด้านการค้าเป็นเรื่องเชิงบวก และเขาหวังว่ายุโรปจะ เปิดกว้างต่อการค้ากับสหรัฐฯ โดยหลังจากสนทนากับประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์จึงเลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 50% สำหรับสินค้าจากสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ออกไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค. 2568
ขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้เป็น 1.2% จากเดิม 1.1% ที่เคยคาดไว้เมื่อเดือนเม.ย. พร้อมแนะนำให้ ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลัง เดินหน้าลดการขาดดุลงบประมาณต่อไป โดยแม้จะเผชิญความท้าทายจากภาษีสหรัฐฯ แต่ IMF คาดว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรจะขยายตัวได้ถึง 1.4% ภายในปี 2569
หุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศพุ่งขึ้น 2.6% หลังทรัมป์ขู่จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยหุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ (BAE Systems) พุ่งขึ้น 3.1%
หุ้นแบรนด์หรูอย่าง เบอร์เบอรี (Burberry) ทะยานขึ้น 5.3% หลังธนาคารบาร์เคลย์ (Barclays) ปรับคำแนะนำลงทุนหุ้นนี้จาก "น้ำหนักลงทุนน้อยกว่าตลาด" (underweight) เป็น "น้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด" (equal-weight)
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลพุ่งขึ้น 5%
หุ้นเอลิเมนทิส (Elementis) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์เฉพาะทาง พุ่งขึ้น 11.4% หลังบรรลุข้อตกลงขายธุรกิจทัลก์ (talc) ให้แก่บริษัทไอเอ็มไอ ฟาบี (IMI Fabi) ด้วยมูลค่าดีล 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นจูปิเตอร์ ฟันด์ แมเนจเมนต์ (Jupiter Fund Management) พุ่งเกือบ 10% หลังบริษัทวิเคราะห์ พีล ฮันท์ (Peel Hunt) ปรับคำแนะนำลงทุนหุ้นนี้จาก "ถือ" เป็น "เพิ่มน้ำหนัก" (add)
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าลดลง 1.8% ตามราคาทองคำที่ปรับตัวลง
ขณะนี้ นักลงทุนกำลังจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และข้อมูลดัชนี PCE พื้นฐานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจให้สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก