ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า เหตุสงครามการค้าทำเทรดเดอร์แห่ขาย

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) โดยเทรดเดอร์ได้แห่ขายเงินดอลลาร์เพราะกังวลกันว่า สงครามการค้าของสหรัฐฯ นั้นจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ระดับ 98.58 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเดือนเศษ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเกือบ 2% เทียบเยน แตะ 142.79 เยน ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.8% เทียบดอลลาร์ แตะ 1.1437 ดอลลาร์

นักลงทุนได้เทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาคุกรุ่นขึ้นอีก เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้นที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกันที่กรุงเจนีวา ส่งผลให้จีนออกแถลงการณ์โจมตีกลับ ระบุสหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลง พร้อมทั้งประกาศเตรียมตอบโต้แข็งกร้าว

กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวหาเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า จีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงทวิภาคีเกี่ยวกับการทยอยลดภาษีนำเข้า โดยรัฐบาลจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า "ไม่มีมูลความจริง" พร้อมประกาศเตรียมใช้มาตรการตอบโต้ที่แข็งกร้าวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง

ทางการจีนยืนยันว่า จีนได้ดำเนินการตามข้อตกลงร่วมที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนพ.ค. ณ กรุงเจนีวาอย่างจริงจังต่อเนื่อง ขณะที่สหรัฐฯ กลับใช้มาตรการกีดกันทางการค้าแบบเลือกปฏิบัติกับจีนหลายประการ โดยหนึ่งในมาตรการล่าสุดของสหรัฐฯ ได้แก่ การระงับการขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน การออกข้อแนะนำใหม่ด้านการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนบางส่วน ซึ่งจีนมองว่าเป็นการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการค้าโดยฝ่ายเดียว และเป็นต้นเหตุของความไม่แน่นอนในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

แถลงการณ์ดังกล่าวจากกระทรวงพาณิชย์จีนมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social เมื่อวันศุกร์ กล่าวหาปักกิ่งว่า ละเมิดข้อตกลงยุติสงครามการค้าเป็นเวลา 90 วัน โดยคำกล่าวหาของปธน.ทรัมป์ดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าการเจรจาการค้ากับจีนประสบภาวะชะงักงัน

นอกจากนี้ การซื้อขายยังได้รับอิทธิพลจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% ด้วย