(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์เจรจาการค้าภาษี "ทรัมป์" คืบหน้า-ราคาน้ำมันขึ้นหนุน

นักวิเคราะห์ฯ คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตามตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐเร่งประเทศคู่ค้ายื่นข้อเสนอเจรจาที่ดีที่สุดภายในวันนี้เพื่อหารือก่อนมาตรการภาษีมีผลบังคับใช้ และข่าว "ทรัมป์" อาจจะเข้าพบ "สี จิ้นผิง" สัปดาห์นี้ อีกทั้งมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบเด้งขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์รัสเซีย-ยูเครน และการทบทวนของ MSCI ที่กดดันก่อนหน้านี้น่าจะผ่านพ้นไปแล้ว ให้กรอบแนวรับ 1,140-1,120 จุด และแนวต้าน 1,180 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นในช่วงวันหยุดยาวของไทยที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหลักจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เร่งให้ประเทศคู่ค้ายื่นข้อเสนอทางการค้าที่ดีที่สุดภายในวันนี้ เพื่อหารือก่อนถึงเวลามาตรการภาษีจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 8 ก.ค.หลังถูกระงับไปชั่วคราว ประกอบกับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน อาจจะเข้าพบกันภายในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ในขณะที่ปัจจัยลบอย่างการทบทวนดัชนี MSCI ที่ทำให้หุ้นไทยปรับตัวลงไปมากเมื่อวันศุกร์น่าจะผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว

พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,140 - 1,120 จุด และแนวต้าน 1,180 จุด


*ประเด็นพิจารณาการลงทุน


- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,519.64 จุด เพิ่มขึ้น 214.16 จุด หรือ +0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,970.37 จุด เพิ่มขึ้น 34.43 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,398.96 จุด เพิ่มขึ้น 156.34 จุด หรือ +0.81%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,686.66 จุด เพิ่มขึ้น 239.85 จุด หรือ +0.64%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,363.39 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด หรือ +0.04% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,499.78 จุด ลดลง 12.71 จุด หรือ -0.05%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 พ.ค.) 1,149.18 จุด ลดลง 14.83 จุด (-1.27%) มูลค่าซื้อขาย 73,098.63 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (30 พ.ค.) 11,106.05 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (3 มิ.ย.) เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.42% ปิดที่ 63.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 มิ.ย.) อยู่ที่ 6.98 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.63 แนวโน้ม Sideways ตลาดรอข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ-ผลประชุม ECB-เงินเฟ้อไทย

- "ซีอีโอ" จับตาสถานการณ์เศรษฐกิจครึ่งปีหลังคลุมเครือ "อาทิตย์" ห่วงเศรษฐกิจไทย "เปราะบาง" เผชิญความไม่แน่นอนสูง "ดับบลิวเอชเอ" มั่นใจเอฟดีไอไหลเข้าไทยต่อส.อ.ท.ชี้เจรจาภาษีชี้ชะตาเศรษฐกิจ "สมาคมการตลาด" แนะเร่งกระตุ้นท่องเที่ยว ฟื้นกำลังซื้อ

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน พ.ค.2568 ที่ 46.7 ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ระดับ 48 และลดลงจากเดือนก่อนหน้า 47.1 โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นระดับความไม่เชื่อมั่น มาจากภาคการผลิตเพื่อส่งออก ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 49.4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 48.9 แต่ต่ำกว่าระดับ 52.9 ซึ่งเป็นระดับความเชื่อมั่นในเดือน พ.ค.2567

- S&P Global Ratings (S&P) คงอันดับความน่าเชื่อถือ (Sovereign Credit Rating) ของประเทศไทยที่ระดับ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยคาดปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ที่ 2.3% ปี 2569 เติบโต 2.6% นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 35.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 26%

- ส่องหน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจชิงเค้กงบฯกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน กระทรวงมหาดไทยชงคำขอ 21,000 โครงการ วงเงินเฉียด 80,000 ล้านบาท องค์กรปกครองท้องถิ่นนำโด่งของบฯ 3.7 หมื่นล้าน ตามมาด้วย 77 จังหวัดยื่นโครงการ 2.5 หมื่นล้าน ขณะที่คมนาคมขอ 50,000 ล้าน ด้าน ก.เกษตรฯเร่งปิดจ็อบงบฯจ้างงานโปรเจ็กต์น้ำ ก.พาณิชย์ชง 3 พันล้าน รับมือแรงกระแทกภาษีทรัมป์ ก.ท่องเที่ยวฯขอ 3 พันล้าน กระตุ้นโปรแกรมเที่ยวไทยคนละครึ่ง ดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทย

- "สว.วีระพันธ์" เตือนภาพรวมปัญหาสะสมโรงพยาบาล 218 แห่งติดลบ เงินบำรุงลดปีละ 2 หมื่นล้าน ด้าน "รมว.สาธารณสุข" ยันไม่ล่มสลาย สปสช.เตรียมตั้งกรรมการกลางศึกษาต้นทุนจริง

- "สมาคมสายการบินประเทศไทย" ยื่นหนังสือถึงคลังชงข้อเสนอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินเหลือ 0.2 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันเก็บ 4.726 บาทต่อลิตร นาน 6 เดือน กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซัน ส่วนแอร์ไลน์พร้อมอัดโปรโมชันส่วนลดค่าตั๋วบินจำนวน 3.5 ล้านที่นั่ง ปลุกเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท หลังอดได้สิทธิเข้าร่วมโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ล่าสุด ททท. ปรับเงื่อนไขใหม่หั่นสิทธิเหลือ 5 แสนสิทธิ

- ธอส.มั่นใจปีนี้ครองแชมป์ตลาดสินเชื่อบ้าน ปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้า 241,780 ล้านบาท แผ่นดินไหวไม่สะเทือนความเชื่อมั่น ยอดโอนคอนโดฯ เพิ่ม 7.7% เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งซื้อบ้านใหม่ ตกแต่ง ซ่อมแซม และสินเชื่อสูงวัย รับสังคมผู้สูงอายุ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯ


*หุ้นเด่นวันนี้

- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus ที่ 317.65 บาท แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68-ครึ่งหลังปี 68 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่องหนุนจากทั้งฝั่งรายได้ที่คาดว่ายังเติบโตแข็งแรง ขณะที่ต้นทุนไม่มีแรงกดดันเพิ่มเติมหลังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เหมือนช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงภาพการแข่งขันที่เบาลง ส่วนการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่เราคาดว่าจะไม่แพงเท่าในอดีต ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ระยะยาวลดลงและเป็นบวกต่อกำไรสุทธิ ประมาณการกำไรปี 2568 ของ Consensus ล่าสุดอยู่ที่ 4-4.1 หมื่นลบ. +16% y-y

- BCP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 38 บาท กำไรไตรมาส 1/68 ฟื้นตัว q-q แรงหนุนจากโรงกลั่น, ธุรกิจการตลาด และทรัพยากร โดยคาดแนวโน้มในช่วงถัดไปยังขยายตัวตามแนวโน้มค่าการกลั่นที่ยังมีโอกาสปรับขึ้น ภาพปี 2568 คาดกลับมาฟื้นตัวจากการ synergy ระหว่าง BCP และ BSRC และคาดจะเห็นการทำ M&A เพิ่มในปีนี้ คาดได้รับคัดเลือกเข้า SET50 รอบใหม่ (ก.ค.-ธ.ค. 2025)

- OSP (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 19 บาท รายงานกำไรไตรมาส 1/68 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.27 พันล้านบาท (+53%YoY) หลังตัดรายการพิเศษขายกิจการในเมียนมา 295 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 970 ล้านบาท (+17%YoY, +58%QoQ) ใกล้เคียงกับเราและ BB Consensus คาดรับแรงหนุนยอดขายต่างประเทศโต 22% YoY พร้อมด้วยอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น 380 bps YoY ชดเชยยอดขายเครื่องดื่มในประเทศที่ลดลง 16% YoY มูลค่าพื้นฐานยังไม่รวม upside จาก M&A ที่อาจจะเกิดขึ้น และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจระดับ 6%-7% บวกกับแนวโน้มส่วนแบ่งตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้นใน MoM ต่อเนื่อง