ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า ขานรับข้อมูลจ้างงานแกร่ง

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) หลังจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. ขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ แม้ชะลอลงจากเดือนเม.ย.บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.45% แตะที่ระดับ 99.190

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 144.85 เยนในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) จากระดับ 143.63 เยนในวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.), แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส มาอยู่ที่ 0.8222 ฟรังก์ จาก 0.8204 ฟรังก์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา มาอยู่ที่ 1.3696 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3661 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1.1397 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1442 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1.3530 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3580 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี

ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งแม้น้อยกว่า 147,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. แต่ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 130,000 ตำแหน่ง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, โอกาสในการเจรจาการค้ากับคู่ค้ารายสำคัญอย่างจีน, การใช้จ่ายงบประมาณขาดดุลและร่างกฎหมายภาษีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภาหลังผ่านสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงทิศทางของข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดเริ่มลดสถานะขายดอลลาร์ลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด รวมถึงตัวเลขการจ้างงานล่าสุด

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กันโดยตรงเมื่อวันพฤหัสบดี (5 มิ.ย.) ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าความตึงเครียดจากการตอบโต้ทางภาษีระหว่างสองประเทศเริ่มผ่อนคลายลง