ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปี 2568 ขึ้นสู่ระดับ 3,215 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 3,015 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาในปี 2569 ขึ้นสู่ระดับ 3,125 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 2,915 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยระบุว่านักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯ
เอชเอสบีซียังระบุด้วยว่า แม้ว่าราคาทองคำปรับตัวลง แต่ราคาที่อยู่สูงกว่าระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ถือเป็นหลักฐานยืนยันว่าทองคำยังคงมีบทบาทในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและเครื่องมือกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เอชเอสบีซีคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจะซื้อทองคำน้อยลงหากราคาพุ่งขึ้นทะลุ 3,300 ดอลลาร์ และอาจจะเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นหากราคาปรับฐานลงใกล้ระดับ 3,000 ดอลลาร์
โดยปกติแล้ว นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน และเกิดสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
ส่วนปัจจัยล่าสุดที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ มาจากการที่วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน มีมติผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมทั้งการใช้จ่ายขนานใหญ่ที่นำเสนอโดยปธน.ทรัมป์ โดยวุฒิสภามีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 51-50 ในวันอังคาร แม้วุฒิสมาชิกภายในพรรครีพับลิกันมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันในประเด็นที่ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะส่งผลให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ อาจได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีศุลกากรในอัตราที่สูงมาก ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 9 ก.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 68)
