ผลสำรวจจากภาคเอกชนที่มีการเปิดเผยในวันนี้ (3 ก.ค.) ระบุว่า กิจกรรมในภาคบริการของญี่ปุ่นขยายตัวเร็วขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิ.ย. ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่นจาก au Jibun Bank ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.7 ในเดือนมิ.ย. จาก 51.0 ในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 51.5 และนับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ยอดคำสั่งซื้อใหม่โดยรวมขยายตัวเร็วขึ้นเล็กน้อยจากเดือนพ.ค. แต่การเพิ่มขึ้นของธุรกิจส่งออกใหม่ ซึ่งโดยทั่วไปมีปัจจัยหลักมาจากกิจกรรมของนักท่องเที่ยว กลับชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.
ผลสำรวจยังชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ประกอบการภาคบริการในมุมมอง 12 เดือนข้างหน้า ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนมิ.ย. โดยบริษัทต่าง ๆ อ้างถึงแผนการขยายกิจการ การจ้างพนักงาน และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งผลให้การจ้างงานในภาคบริการเติบโตในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
ด้านเงินเฟ้อฝั่งปัจจัยการผลิต (Input price inflation) อ่อนตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่เงินเฟ้อฝั่งผลผลิต (Output inflation) กลับพุ่งขึ้นสู่อัตราสูงสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากบริษัทภาคบริการยังคงผลักภาระต้นทุนค่าแรง เชื้อเพลิง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภค
การฟื้นตัวของภาคบริการ ประกอบกับการที่กิจกรรมในภาคการผลิตกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบประมาณหนึ่งปี ได้ช่วยหนุนให้ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่น ขยับขึ้นสู่ระดับ 51.5 ในเดือนมิ.ย. จาก 50.2 ในเดือนพ.ค. ถือเป็นการเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.